อาบูดาบีตั้งเป้าปี 2573 พัฒนาเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี
อีเมล์ [email protected]

(ภาพจาก www.google.com)

                   สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้ส่งตรงข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ Abu Dhabi Economic Vision 2030 เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของรัฐอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งให้ความสำคัญกับนโยบาย 7 ประการ ได้แก่
(1) เศรษฐกิจเปิดที่มีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก
(2) นโยบายการคลังที่มีวินัยและตอบสนองต่อวัฏจักรทางเศรษฐกิจ
(3) ตลาดเงินทุนที่มีความยืดหยุ่นและมีเงินเฟ้อในระดับที่จัดการได้
(4) ตลาดแรงงานที่มีประสิทธิภาพ
(5) โครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพอและเกื้อหนุนต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
(6) แรงงานที่มีทักษะและความสามารถในการผลิตสูง และ
(7) การใช้ทรัพยากรจากตลาดทุนสนับสนุนภาคส่วนและโครงการเศรษฐกิจ
แผนดังกล่าว จะมุ่งเพิ่มความหลากหลายของเศรษฐกิจของรัฐอาบูดาบีเพื่อลดการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยได้ตั้งตัวเลขเป้าหมายต่างๆ เช่น (1) เพิ่มสัดส่วนของ Non-oil GDP ต่อ GDP ทั้งหมดจากร้อยละ 41 เป็นร้อยละ 64 (2) GDP เติบโตร้อยละ 6-7 ต่อปี (3) รัฐไม่ขาดดุลการค้าในสินค้าอื่นๆ ทั้งหมดที่ไม่ใช่น้ำมัน (4) ลดอัตราการว่างงานจากร้อยละ 12 เหลือร้อยละ 5 (5) เพิ่มดัชนีการพัฒนามนุษย์ (HDI) จาก 0.89 เป็น 0.93 เป็นต้น
                 นอกจากนี้ แผน Abu Dhabi Economic Vision 2030 ได้คัดเลือกตัวอย่างด้านเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จใน 4 ประเทศ ได้แก่ นอร์เวย์ (การนำรายได้จากน้ำมันไปพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีวินัย) นิวซีแลนด์ (การพัฒนาธุรกิจการส่งออกและ SMEs) ไอร์แลนด์ (การพัฒนาเศรษฐกิจบนพื้นฐานของความรู้และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ) และสิงคโปร์ (การเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและการเงินเพื่อทดแทนการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติ) อย่างไรก็ตาม การจัดทำแผนที่จะลดความเสี่ยงของเศรษฐกิจของรัฐอาบูดาบีจากการพึงพาทรัพยากรน้ำมัน ความแปรปรวนของเศรษฐกิจโลกและเงินทุนจากต่างประเทศ กลับไม่ได้กล่าวถึงยุทธศาสตร์การส่งเสริมพลังงานทดแทนเท่าที่ควรและไม่ได้ตั้งเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นรูปธรรมดังเช่นเป้าหมายด้านเศรษฐกิจมหาภาค

ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2011