ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีกับการตัดสินเรื่องการให้สัตยาบัน สนธิสัญญา ESM และ TSCG

ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีกับการตัดสินเรื่องการให้สัตยาบัน สนธิสัญญา ESM และ TSCG

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ก.ย. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 4,714 view

                                       ศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีกับการตัดสินเรื่องการให้สัตยาบันสนธิสัญญา ESM และ TSCG
                                                                                                             สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ /

                                                                                                                     คณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป
                                                                                                                                    [email protected]

            กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ เกี่ยวกับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีเรื่องการให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญา Treaty Establishing the European Stability Mechanism (ESM) และสนธิสัญญา Treaty on Stability, Cooperation and Governance in the Economic and Monetary Union (TSCG) เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งระบุว่า ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะระงับเยอรมนี
ในการให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าว แต่มีเงื่อนไขด้วยว่า การให้สัตยาบันสนธิจะถือว่าสมบูรณ์ในกรณีที่มี ‘‘constitutional assurances’’ ด้วยว่าการเพิ่มเงินสมทบในส่วนของเยอรมนีแก่ ESM (ซึ่งปัจจุบันเงินสมทบในส่วนของเยอรมนีอยู่ที่ประมาณ ๑๙๐ พันล้านยูโร) จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากผู้แทนรัฐบาลเยอรมนีใน ESM Board รวมทั้งจะต้องมีการรายงานข้อมูลการดำเนินงานของ ESM ให้ฝ่ายนิติบัญญัติของเยอรมนี (Parliament, Bundestag and Bundesrat) ทราบเป็นระยะด้วย
            เกี่ยวกับเรื่องนี้ ต่อมานาย Jean-Claude Junker ประธานกลุ่มยูโรโซน ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๕ ในเรื่องดังกล่าว โดยมีสาระสำคัญสรุปว่า ได้รับทราบผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเยอรมนีในเรื่องดังกล่าวข้างต้นแล้ว และคาดหวังว่า กระบวนการต่าง ๆ เพื่อให้ ESM มี
ผลบังคับใช้จะแล้วเสร็จเพื่อให้สามารถจัดการประชุม ESM-Board of Governors ในวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ส่วน TSCG จะมีผลบังคับใช้หลังจากมีประเทศสมาชิกกลุ่มยูโรโซนไม่น้อยกว่า ๑๒ ประเทศให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว
            ทั้งนี้ รายงานข่าวของสื่อออนไลน์ Spiegel ระบุว่า ปัจจุบันเยอรมนีเป็นสมาชิกยูโรโซนเพียงประเทศเดียวที่ยังไม่ให้สัตยาบันสนธิสัญญา ESM ซึ่งนับว่ามีผลต่อการใช้บังคับสนธิสัญญาดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากเยอรมนีมีสัดส่วนการให้เงินสนับสนุน ESM สูงที่สุดในอัตราร้อยละ ๒๗.๑๔๖โดยนับว่าสูงกว่าประเทศในเขตยูโรโซนอื่น ๆ มาก  ผลสำเร็จในการก่อตั้ง ESMนี้ จึงขึ้นอยู่กับการให้สัตยาบันสนธิสัญญาดังกล่าวของเยอรมนีด้วย