เกาะติดเศรษฐกิจยูเออี

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี
(อีเมล์ [email protected] )

             สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี ได้สรุปข่าวสารด้านเศรษฐกิจในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี มาฝากคอเศรษฐกิจทุกท่านให้ได้ติดตามกันถึง 5 ข่าวด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการท่องเที่ยว การธนาคาร เศรษฐกิจมหภาค และเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีข้อมูลอันน่าสนใจ ดังต่อไปนี้


การเจริญเติบโตของการท่องเที่ยวยูเออี

             เริ่มต้นที่ข่าวแรกกับภาคการท่องเที่ยวของยูเออี ที่มีแนวโน้มจะเจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด Emirates Centre for Strategic Studies and Research (ECSSR) รายงานว่า ในช่วง 40 ปี ที่ผ่านมา ยูเออีมีสัดส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 1 เป็นร้อยละ 10.4 ซึ่งเป็นผลมาจากการนำรายได้จากอุตสาหกรรมพลังงานไปลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ คุณภาพของโรงแรม ความสามารถในการจัดประชุมและงานระดับโลกต่างๆ รวมทั้งความนิยมในสายการบินประจำชาติยูเออี ล้วนแต่เป็นจุดแข็งของการท่องเที่ยวของยูเออี ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่กว่า 2 ล้านคน
ในปี 2554 ที่ผ่านมา


ยูเออีเปิดเสรีสินค้าโภคภัณฑ์ 12 ชนิด

             เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรียูเออี ได้อนุมัติให้เปิดเสรีการค้าสินค้าโภคภัณฑ์ 12 ชนิด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมและปศุสัตว์ ไขมัน น้ำมัน น้ำผึ้ง ไข่ น้ำผลไม้ เกลือ ยีสต์ อาหารสัตว์ ผงซักฟอก และผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันการผูกขาดในตลาดและการขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากรัฐบาลยูเออีเล็งเห็นว่าการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจให้กับประชาชนในประเทศนั้นจะนำมาซึ่งความมั่นคงทางการเมืองต่อไป


อัตราเงินเฟ้อของยูเออี

             สำนักงานสถิติแห่งชาติยูเออี เผยว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 2554 อยู่ที่ร้อยละ 0.2 อีกทั้ง ผู้ว่าการธนาคารกลางยูเออี คาดการณ์ว่า ในปี 2555 อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ร้อยละ 2 เนื่องจากค่าที่พักอาศัยซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 40 ของค่าครองชีพมีแนวโน้มลดลงอีก สำหรับอัตราเงินเฟ้อของรัฐอาบูดาบี เมืองหลวงของยูเออี อยู่ที่ร้อยละ 1.9 ในปี 2554 ที่ผ่านมา


ธุรกิจการเงินอิสลามของยูเออี

             Oxford Business Group ร่วมกับ Abu Dhabi Islamic Bank (ADIB) ได้จัดทำรายงานซึ่งระบุว่า ในปี 2554 มูลค่าธุรกิจการเงินอิสลามของยูเออีคิดเป็นร้อยละ 30 ของธุรกิจการเงินอิสลามทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ สินทรัพย์ธนาคารอิสลามเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปี สูงกว่าธนาคารทั่วไปที่เติบโตเพียงร้อยละ 9 ต่อปี


ความตกลงแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างยูเออีกับจีน

             ปิดท้ายด้วยพัฒนาการความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างยูเออีกับมหาอำนาจแห่งตะวันออกอย่างจีน โดยล่าสุด ยูเออีและจีนได้ลงนามความตกลงแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างกันเป็นระยะเวลา 3 ปี มูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายหวังว่า ความตกลงดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการลงทุนและการค้าทวิภาคีขึ้นไปอีก ทั้งนี้ ในปี 2554 การค้าระหว่างยูเออีกับจีนสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2553 ถึงร้อยละ 38.2 เลยทีเดียว


สำเนาข่าวจากสื่อออนไลน์ของยูเออี