สรุปผลการประมูลข้าวนำเข้าของประเทศญี่ปุ่น
ตามข้อตกลง Minimum Access ขององค์การการค้าโลก (WTO) ประจำปีงบประมาณ 2553
ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2553 31 มีนาคม 2554

(แหล่งข้อมูล: สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศประจำกรุงโตเกียว)

กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น ได้จัดการประมูลข้าวนำเข้าตามข้อตกลง Minimum Access ขององค์การการค้าโลก (WTO))แบบ Ordinary Minimum Access (OMA) และแบบ Simultaneous Buying and Selling Tender System (SBS) โดยมีผลสรุปการประมูลตามงบประมาณประจำปี 2553 (ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2553 31 มีนาคม 2554) จำนวนรวม 677,708 ตัน ตามที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโตเกียว ดังนี้

1. การประมูลข้าวนำเข้าแบบ Ordinary Minimum Access (OMA)
มีการนำเข้าปริมาณรวม 640,482 ตัน จากการประมูลทั้งหมด 11 ครั้ง แบ่งเป็นการนำเข้าจากไทย 296,482 ตัน (46.3%) จากสหรัฐอเมริกา 295,000 ตัน (46.1%) จากออสเตรเลีย 36,000 ตัน (5.6%) และจากสาธารณรัฐประชาชนจีน 13,000 ตัน (2.0%)

2. การประมูลข้าวนำเข้าแบบ Simultaneous Buying and Selling Tender System (SBS)
มีการนำเข้าปริมาณรวม 37,226 ตัน จากการประมูลทั้งหมด 9 ครั้ง แบ่งเป็นการนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา 22,210 ตัน (59.7%) จากไทย 11,010 ตัน (29.6%) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน 3,468 ตัน (9.3%) จากปากีสถาน 398 ตัน (1.1%) จากอินเดีย 72 ตัน (0.2%) และจากอิตาลี 68 ตัน (0.1%)

3. สรุปผลการประมูลข้าวตามข้อตกลง Minimum Access ในปีงบประมาณ 2553
ประเทศญี่ปุ่นนำเข้าข้าวในปีงบประมาณ 2553 ตามพันธกรณี WTO น้อยกว่าปริมาณตามข้อตกลง Minimum Access ประมาณ 100,000 ตัน (ปริมาณข้าวนำเข้าตามข้อตกลง MA 770,000 ตันต่อปี) โดยประเทศญี่ปุ่นนำเข้าข้าวทั้งแบบ OMA และ SBS จากสหรัฐอเมริกามากเป็นอันดับ 1 ปริมาณ 317,210 ตัน (46.8%) รองลงมาได้แก่ ไทย 307,492 ตัน (45.3%) จากออสเตรเลีย 36,000 ตัน (5.3%) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน 16,468 ตัน (2.4%) และส่วนที่เหลือนำเข้าจากปากีสถาน อินเดีย และอิตาลี

หมายเหตุ: หนังสือพิมพ์ Japan Today ฉบับประจำวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 ได้รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นระบุสาเหตุที่ความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อการบริโภคของญี่ปุ่นในปีงบประมาณ 2553 ต่ำกว่าเป้าหมายนำเข้าประมาณ 100,000 ตัน เนื่องจากความนิยมที่มีต่อข้าวนำเข้าลดลง เนื่องจากปัจจัยดังนี้ 1) ราคาข้าวนำเข้าที่สูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่สาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการข้าวเพิ่มขึ้น และ 2) ราคาข้าวในญี่ปุ่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคของญี่ปุ่นลดลง