อาร์เจนตินายืนหยัดปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส
อีเมล์ [email protected] , [email protected]

ภาพจาก www.google.com

             ท่านทราบหรือไม่ว่า? อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่มีมาตรการกีดกันทางการค้ามากเป็นอันดับสองของโลก รองจากรัสเซีย โดยอาร์เจนตินาได้ออกมาตรการต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้าทั้งสิ้น 104 มาตรการ อาทิ การเก็บภาษีส่งออกสินค้าเกษตร (Export Tax) และการจำกัดโควตาการส่งออกเนื้อวัว รวมทั้ง มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non Tariff Barriers NTBs) โดยเฉพาะรัฐบาลปัจจุบัน ได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่จะควบคุมการนำเข้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมและการจ้างงานภายในประเทศ

             ศูนย์บริการข้อมูลธุรกิจไทยประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส จึงได้ส่งตรงข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษีต่างๆของอาร์เจนตินา ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมสินค้านำเข้า การกำหนดราคาอ้างอิง การขออนุญาตนำเข้า และการส่งเสริมการผลิตภายในประเทศ พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบของมาตรการดังกล่าวต่อสินค้าส่งออกของไทย เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยและผู้สนใจทุกท่านได้ศึกษากันต่อไปด้วย


             มาตรการควบคุมสินค้านำเข้าจากประเทศในกลุ่มที่ 4

             เมื่อปลายปี 2550 กรมศุลกากรอาร์เจนตินากำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้าจากกลุ่มประเทศที่ 4 ได้แก่ ไทย เกาหลีใต้  จีน ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ปากีสถาน ไต้หวัน สิงคโปร์ และเวียดนาม ต้องแสดงข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติม อาทิ Commercial Invoice ที่ผ่านการรับรองจากกรมศุลกากรและสถานเอกอัครราชทูตอาร์เจนตินาที่มีเขตอาณาครอบคลุมประเทศผู้ส่งออก

             อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2551 ได้มีการยกเลิกมาตรการดังกล่าว เนื่องจากถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเลือกปฏิบัติเฉพาะสินค้าจากประเทศในกลุ่มที่ 4 ปัจจุบัน Commercial Invoice ที่ต้องแสดงไม่จำเป็นต้องผ่านการรับรองจากกรมศุลกากรและสถานเอกอัครราชทูตอาร์เจนตินาฯ จะมีเพียง Certificate of Origin เท่านั้น ที่ต้องผ่านการรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตอาร์เจนตินาฯ


             การกำหนดราคาอ้างอิง

             กรมศุลกากรอาร์เจนตินา ได้กำหนดราคาอ้างอิงหรือราคากลางสำหรับสินค้านำเข้าหลากหลายรายการ โดยถ้าหากราคาสินค้านำเข้าต่ำกว่าเกณฑ์ราคาที่กำหนดไว้ ผู้นำเข้าต้องชดเชยส่วนต่างนั้น ฝ่ายอาร์เจนตินาอ้างว่า การกำหนดราคาอ้างอิงเป็นการป้องกันการทุ่มตลาดมากกว่าที่จะเป็นมาตรการกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากจีน

             สำหรับสินค้าส่งออกของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว อาทิ ชิ้นส่วนรถยนต์บางชนิด เครื่องใช้ไฟฟ้า พลาสติก ยาง ของเล่นเด็ก สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดของรายการสินค้าและราคาอ้างอิงที่กำหนดไว้ทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์ของ Global Trade Alert ที่ www.globaltradealert.org อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวได้สร้างอุปสรรคให้กับผู้นำเข้าอาร์เจนตินามากกว่าผู้ส่งออกจากต่างประเทศ


             มาตรการ Non-Automatic Licensing

             เมื่อปี 2551 รัฐบาลอาร์เจนตินากำหนดให้ผู้นำเข้าต้องขออนุญาตจากกระทรวงเศรษฐกิจอาร์เจนตินาก่อนนำเข้า โดยปัจจุบันมีสินค้านำเข้าประมาณ 600 รายการที่อยู่ภายใต้มาตรการ Non-Automatic Licensing ซึ่งร้อยละ 50 คือสินค้าประเภทสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ถึงแม้ฝ่ายอาร์เจนตินาจะชี้แจงว่ามาตรการดังกล่าวเป็นไปตามความตกลงภายใต้องค์การการค้าโลก ที่อนุญาตให้ใช้เพื่อจำกัดการนำเข้าสินค้าและประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ผลิตภายในประเทศได้ แต่การปฏิบัติของอาร์เจนตินาเข้าข่ายเป็นการสร้างอุปสรรคเกินควร

             สำหรับสินค้าส่งออกของไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว อาทิ เครื่องจักรและชิ้นส่วน ชิ้นส่วนรถยนต์ ผลิตภัณฑ์จากยาง ชื้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เส้นด้าย และรองเท้า อย่างไรก็ตาม สินค้าบางชนิด เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์และเส้นด้าย มีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมภายในประเทศอาร์เจนตินายังคงอาศัยวัตถุดิบดังกล่าวอยู่ มาตรการนี้จึงไม่ส่งผลต่อไทยมากเท่ากับที่ส่งผลต่อประเทศเพื่อนบ้านของอาร์เจนตินา อย่างบราซิลและอุรุกวัยซึ่งเป็นสมาชิก MERCOSUR ด้วยกัน


             มาตรการภาษีส่งเสริมการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จังหวัด Tierra del Fuego

             เมื่อช่วงปี 2552 รัฐบาลอาร์เจนตินาได้ออกกฎหมายพิเศษเพื่อส่งเสริมให้จังหวัด Tierra del Fuego ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศเป็นฐานการผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า โดยลดอัตราภาษีภายใน (Internal Tax) สำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆที่ผลิตในจังหวัด มาตรการดังกล่าวได้สร้างการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากต่างประเทศ

             อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยมากนัก เนื่องจากอุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่จังหวัด Tierra del Fuego ก็ใช้ชิ้นส่วนที่นำเข้าจากประเทศไทยเช่นกัน ดังนั้น ประเทศผู้ส่งออกอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ เช่น ญี่ปุ่นและบางประเทศในยุโรป จะได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้มากกว่าประเทศไทย


             มาตรการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้า (นโยบาย1-1)

             เมื่อเดือนมีนาคม 2554 รัฐบาลอาร์เจนตินาประกาศให้ผู้นำเข้าสินค้าจะต้องรักษาระดับมูลค่าการส่งออกให้เท่าเทียมกับมูลค่าการนำเข้า โดยผู้นำเข้าจะต้องหาคู่ธุรกิจส่งออก เพื่อหาแนวทางร่วมกันที่จะทำให้มูลค่าการนำเข้าสินค้าเท่าเทียมกับการส่งออก จึงเรียกนโยบายนี้ว่านโยบาย1-1 ซึ่งสินค้าภายใต้นโยบายดังกล่าวจะเป็นสินค้าที่อาร์เจนตินาสามารถผลิตได้เองจึงต้องการที่จะตรวจสอบและควบคุมการนำเข้าสินค้าคู่แข่ง อย่างไรก็ดี รายการสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไม่ได้อยู่ในรายการ

             จากข้อมูลดังกล่าว แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอาร์เจนตินา มีมาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันของอาร์เจนตินายึดมั่นในการปกป้องอุตสาหกรรมและการจ้างงานภายในประเทศเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม สินค้าส่วนใหญ่ที่ไทยส่งออกไปยังอาร์เจนตินาเป็นชิ้นส่วนและวัตถุดิบสำคัญที่อุตสาหกรรมในอาร์เจนตินายังต้องการอยู่และไม่สามารถผลิตได้เอง จึงทำให้ไทยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

             ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยควรส่งเสริมการค้าระหว่างไทยและอาร์เจนตินาให้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอาจจัดให้มีการพบปะกันระหว่างคณะนักธุรกิจของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น เนื่องจากภาคเอกชนย่อมรู้ดีว่าแต่ละฝ่ายมีความต้องการสินค้าอะไรจากกันและกัน นอกจากนี้ นักธุรกิจควรที่จะได้เปิดหูเปิดตาหาลู่ทางใหม่ๆ เนื่องจากยังมีจังหวัดอื่นๆในอาร์เจนตินาอย่าง Mendoza และ Cordoba ซึ่งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สำคัญอีกแห่งของอาร์เจนตินา และมีศักยภาพที่จะเป็นตลาดใหม่สำหรับสินค้าไทยได้เช่นกัน


สำเนาข่าวตัดจากหนังสือพิมพ์ Buenos Aires Herald