รอบรั้วเศรษฐกิจชิลี

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
http://www.thaiembassychile.org

             ชิลี หนึ่งในประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมโดดเด่นประเทศหนึ่งในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยล่าสุดธนาคารโลกได้จัดอันดับให้ชิลีรั้งอันดับ 39 ของประเทศที่พร้อมอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ประจำปี 2555 (Doing Business 2012) จากปีที่แล้ว อยู่ในลำดับที่ 37 แถมยังได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 44 ประเทศที่มีมาตรฐานชีวิตดีที่สุดของดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index) จัดทำโดยสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ชิลีจึงเป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก จึงไม่พลาดประมวลข่าวสารที่น่าสนใจมาฝากท่านผู้อ่านกัน ดังนี้

เศรษฐกิจชิลีเมื่อเดือนกันยายน 2554 ขยายตัวร้อยละ 5.7

             ธนาคารกลางชิลี แถลงว่า เมื่อเดือนกันยายน 2554 เศรษฐกิจชิลีขยายตัวร้อยละ 5.7 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2553 อัตราการขยายตัวดังกล่าวสูงกว่าที่สำนักข่าว Reuters และหอการค้ากรุงซันติอาโกคาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจของประเทศประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมาจะเติบโตร้อยละ 5.4 และร้อยละ 5.6 ตามลำดับ นอกจากนี้ อัตราการขยายตัวเมื่อเดือนกันยายน 2554 ยังเป็นอัตราการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ซึ่งเศรษฐกิจชิลีเติบโตร้อยละ 4 และเมื่อเดือนสิงหาคม 2554 เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 4.6

             ปัจจัยที่ทำให้อัตราการเติบโตประจำเดือนกันยายน 2554 สูงกว่าเมื่อเดือนเดียวกันของปี 2553 ส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากจำนวนวันทำงานในเดือนกันยายนปีนี้มีมากกว่าปีที่แล้ว สถิติการขยายตัวยังชี้ว่า ภาคค้าปลีกและการประมงเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีอัตราการขยายตัวโดดเด่นกว่าภาคเศรษฐกิจอื่นๆ ขณะที่ภาคเหมืองแร่มีอัตราการขยายตัวที่ต่ำลง

             ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2554 เศรษฐกิจชิลีเติบโตในอัตราสะสมแล้วร้อยละ 7.1 ซึ่งสอดคล้องกับอัตราคาดการณ์การเจริญเติบโตประจำปี 2554 ซึ่งธนาคารกลางชิลีเชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวร้อยละ 6.25 - 6.75 โดยประมาณ

ที่มา www.santiagotimes.cl : วันที่ 8 พฤศจิกายน คศ.2011


ชิลีได้ดุลการค้าระหว่างประเทศ 837 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนตุลาคม 2554

             เมื่อเดือนตุลาคม 2554 ชิลีส่งออกสินค้ามูลค่า 6,446 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2553 และนำเข้าสินค้ามูลค่า 5,609 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 ส่งผลให้เมื่อเดือนตุลาคม 2554 ชิลีได้ดุลการค้าระหว่างประเทศมูลค่า 837 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

             สินค้าส่งออกที่สำคัญที่สุดของชิลีประจำเดือนตุลาคมที่ผ่านมาคือ ทองแดง ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 3,531 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งมีมูลค่าการส่งออกทองแดงเพียง 2,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น และสูงกว่ามูลค่าการส่งออกเมื่อเดือนกันยายน 2554 ซึ่งเท่ากับ 3,305 ล้านดอลลาร์สหรัฐด้วย  ขณะเดียวกัน มูลค่าการนำเข้าเมื่อเดือนตุลาคม 2554 ต่ำกว่าเมื่อเดือนกันยายน 2554 ซึ่งชิลีนำเข้าสินค้ารวม 6,285 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

             ตั้งแต่เดือนมกราคม ตุลาคม 2554 ชิลีมีสถิติการส่งออกแล้วรวม 68,357 ล้านนดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.7 และมีการนำเข้าสินค้า 57,511 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 ทำให้ชิลีได้ดุลการค้าระหว่างประเทศแล้วมูลค่า 10,846 ล้านดอลลาร์สหรัฐ   

             ธนาคารกลางชิลีคาดว่า ในปี 2554 ชิลีจะมีดุลการค้าเกินดุลตลอดทั้งปี 12,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2555 คาดว่าชิลีจะได้ดุลการค้าระหว่างประเทศเพียง 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

ที่มา www.americaneconomia.com : วันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011


ชิลีอยู่ในอันดับที่ 32 ของดัชนีตราประเทศ (Country Brand Index)

             ชิลีได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 34 ของดัชนีตราประเทศ (Country Brand Index) ประจำปี 2554 ซึ่งเป็นอันดับที่ดีขึ้นจากปีที่แล้ว 6 อันดับด้วยกัน 

             ปี 2553 ชิลีอยู่ในอันดับที่ 40 ของการจัดอันดับดัชนีตราประเทศ โดยได้รับยกย่องให้เป็นประเทศดาวรุ่งเกิดใหม่ เนื่องจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาเสรีภาพด้านการเมือง การพัฒนาองค์ความรู้ในประเทศ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รวมถึงความสำเร็จในการช่วยชีวิตคนงานเหมืองแร่จำนวน 33 คนจากเหตุเหมืองถล่มเมื่อปีที่แล้ว 

             ผู้แทนหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวชิลีระบุว่า อันดับที่ดีขึ้นของชิลีในปีนี้จากการจัดอันดับดัชนีตราประเทศนั้น เป็นผลมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาตราประเทศจนประสบความสำเร็จ และทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมมือเพื่อพัฒนาภาพลักษณ์ของชิลีให้ดียิ่งขึ้นในสายตาชาวต่างชาติต่อไป 

             การจัดอันดับดัชนีดังกล่าวมาจากการสำรวจความคิดเห็นของนักเดินทางจำนวน 3,400 คน จาก 13 ประเทศทั่วโลก ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท Future Brand

ที่มา http://www.americaeconomia.com : วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011


ราคาปลาแซลมอนในชิลีลดลงเหลือ 2.9 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์

             ราคาจำหน่ายปลาแซลมอนของชิลีลดลงร้อยละ 30 ตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมา จาก 6 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์เหลือเพียง 2.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์เท่านั้น  ส่งผลให้ผู้ประกอบการในชิลีเริ่มแสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจดังกล่าวของประเทศ 

             ปี 2550 อุตสาหกรรมการผลิตปลาแซลมอนในชิลีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัส ISA ซึ่งทำให้ผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวลดลงอย่างมาก แต่เมื่อปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวชะลอตัวลง ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ได้คาดการณ์ว่าภายในปี 2556 อุตสาหกรรมการผลิตปลาแซลมอนของชิลีจะฟื้นตัวและสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตได้เป็น 6 แสนตัน อย่างไรก็ดี สถานการณ์ด้านราคาของผลผลิตที่ตกต่ำลงทำให้เกิดความห่วงกังวลว่า อาจต้องมีการปรับลดอัตราคาดการณ์การขยายตัวดังกล่าวลงร้อยละ 15 - 20 

             หน่วยงานด้านการประมงของชิลีแถลงว่า แม้ว่าภาคเศรษฐกิจดังกล่าวจะขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าเดิม แต่รัฐบาลชิลียังคงรักษาเป้าหมายการส่งออกมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ไว้เช่นเดิม เพื่อให้อุตสาหกรรมการผลิตปลาแซลมอนก้าวขึ้นมามีความสำคัญในฐานะอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศ
ในปี 2554 เป็นที่คาดการณ์ว่าชิลีจะสามารถผลิตปลาแซลมอนได้ 550,000 ตัน

ที่มา www.santiagotimes.cl : วันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011