วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ก.ย. 2554
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 25 พ.ย. 2565
ท่องโลกเศรษฐกิจแดนชิลี
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
(www.thaibizchile.org หรืออีเมล์ [email protected])

ภาพจาก www.google.com
ยอดส่งออกผลิตภัณฑ์ป่าไม้ เกษตร และปศุสัตว์นำรายได้สู่ชิลีเพิ่มมากขึ้น
มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ป่าไม้ การเกษตร และปศุสัตว์ของชิลีระหว่างเดือนมกราคม ถึง กรกฎาคม 2554 นำรายได้สู่ชิลีจำนวน 8,659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2553 ร้อยละ 16 ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกดังกล่าวประกอบด้วย การส่งออกผลผลิตทางการเกษตร มูลค่า 4,955 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ มูลค่า 2,974 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 38 และผลผลิตทางปศุสัตว์ มูลค่า 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 32
ขณะเดียวกัน การนำเข้าผลิตภัณฑ์ป่าไม้ การเกษตร และปศุสัตว์ของชิลีเมื่อ 7 เดือนที่ผ่านมา ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 โดยมีมูลค่า 2,726 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรชิลีระบุว่า สถิติการส่งออกผลิตภัณฑ์ป่าไม้ การเกษตร และปศุสัตว์ที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นถึงพลวัตของทั้งสามภาคการผลิตในตลาดระหว่างประเทศ โดยมีปัจจัยบวกมาจากราคาของผลผลิตประเภทดังกล่าวในตลาดโลกที่สูงขึ้นเช่นเดียวกับความต้องการการบริโภคสินค้าเหล่านี้
ที่มา: http://www.df.cl ประจำวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2011
กรุงซันติอาโกรั้งอันดับ 5 เมืองค่าครองชีพสูงที่สุดในภูมิภาคลาตินอเมริกา
ธนาคาร UBS ได้จัดอันดับให้กรุงซันติอาโกครองอันดับ 5 เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุด ของภูมิภาคลาตินอเมริกาและเป็นอันดับที่ 59 ของโลก ซึ่งสูงขึ้นจากการจัดอันดับเมื่อปี 2552 เมื่อกรุงซันติอาโกมีค่าครองชีพสูงเป็นอันดับที่ 62 ในการจัดอันดับดังกล่าว
หากพิจารณาในระดับภูมิภาคลาตินอเมริกาแล้ว เมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุด 4 อันดับแรก ได้แก่ นครเซาเปาโล ประเทศบราซิล นครริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล กรุงการากัส ประเทศเวเนซุเอลา และกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย ตามมาด้วยกรุงซันติอาโกเป็นอันดับที่ห้า
นับตั้งแต่ต้นปี 2554 ค่าครองชีพในชิลีสูงขึ้นประมาณร้อยละ 30 โดยปัจจัยส่วนหนึ่งเกิดจากค่าเงิน
เปโซชิลีที่แข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งค่าครองชีพที่สูงขึ้นดังกล่าว จะยิ่งเป็นแรงกดดันให้เกิดความไม่พอใจต่อการบริหารงานของรัฐบาลประธานาธิบดีปิเญราเพิ่มขึ้นไปอีก
ผลการศึกษาดังกล่าว ซึ่งทำการเปรียบเทียบราคาสินค้าและบริการจำนวน 122 ประเภท ใน 70 เมืองทั่วโลกปรากฏว่า กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ นครซูริคและนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดสามอันดับแรกของโลก โดยมีปัจจัยหนึ่งคือการแข็งค่าของเงินสกุลท้องถิ่นเมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งส่งผลให้สินค้าภายในมีราคาสูงขึ้น
ขณะที่ค่าครองชีพในเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะลดลง โดยนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกาจากการสำรวจครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ในทางกลับกัน กรุงนิวเดลี กรุงมะนิลา และนครมุมไบ เป็นเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดในโลกจากการสำรวจครั้งนี้
ที่มา: หนังสือพิมพ์ Estrategia ประจำวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2011
คาดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชิลีจะขยายตัวร้อยละ 9 ในปี 2554
เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางธรรมชาติและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวในชิลีเติบโตเป็นอย่างยิ่ง โดยหน่วยงานส่งเสริมการท่องเที่ยวของชิลี (Sernatur) ประเมินว่า ในปี 2554 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของชิลีจะขยายตัวร้อยละ 9 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (Business Tourism) ซึ่งขยายตัวถึงร้อยละ 27 เมื่อปี 2553
Sernatur รายงานว่า ตลอดหกเดือนแรกของปี 2554 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในชิลีเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 และปัจจุบัน มีเม็ดเงินไหลเวียนในระบบดังกล่าวประมาณ 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Sernatur ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2557 ชิลีจะรองรับนักท่องเที่ยวได้จำนวน 4 ล้านคนเป็นอย่างน้อย โดยปัจจุบัน รัฐบาลมีงบประมาณสำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวในชิลีจำนวน 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ดี หากต้องการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จำเป็นต้องมีการลงทุนในการพัฒนาสาธารณูปโภคเพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะโรงแรม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 1,100 แห่ง และสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 65,000 ห้องเท่านั้น
ทั้งนี้ เป็นที่คาดการณ์ว่า ระหว่างปี 2555- 2556 การลงทุนเพื่อสร้างโรงแรมในชิลีจะมีมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ชิลีเป็นประเทศอันดับที่สี่ในภูมิภาคลาตินอเมริกาที่มีการลงทุนในการพัฒนาธุรกิจโรงแรมมากที่สุด รองจาก อาร์เจนตินา เปรู และโคลอมเบีย
นอกจากนี้ เนื่องจากธุรกิจโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้เป็นบริการที่เน้นความเป็นกันเองและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ โดยมักมีการให้บริการสปาและการนวดภายในโรงแรมด้วย ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันสูง นี่จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจจะหาลู่ทางดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการที่ชิลี
ที่มา: http://www.latercera.com ประจำวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2011
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)