วันที่นำเข้าข้อมูล 8 ส.ค. 2554
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
เก็บตกข่าวเศรษฐกิจชิลี
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซานติอาโก
(www.thaibizchile.org หรืออีเมล์ [email protected])
ภาพจาก www.google.com
ชาวชิลีรับประทานข้าว 7.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
คุณรู้หรือไม่? ชาวชิลีเป็นหนึ่งในผู้บริโภคข้าวอันดับต้นๆ ของโลก สถิตินี้ได้รับการยืนยันมาแล้วจากรายงานของ Euromonitor ที่ระบุว่า ชาวชิลีรับประทานข้าวถึง 7.2 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นปริมาณการบริโภคที่มากกว่าชาวจีน ที่บริโภคข้าวเพียง 6.4 กิโลกรัมต่อคนต่อปีเท่านั้น โดยประเภทข้าวที่เป็นที่นิยมในหมู่ชาวชิลี คือ ข้าวเมล็ดป้อมและยาว ซึ่งสามารถผลิตได้เองภายในประเทศ และความต้องการบริโภคข้าวประเภทดังกล่าวสูงกว่าข้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยควรจะศึกษาแนวโน้มการผลิตและการบริโภคข้าวของชาวชิลี เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดข้าวไทยต่อไปได้ในอนาคต
ที่มา: หนังสือพิมพ์Estrategia ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 2011
การค้าปลีกชิลีขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2551
สภาหอการค้ากรุงซันติอาโก เปิดเผยว่า ยอดขายปลีกสินค้าในชิลีมีมูลค่า 56.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีอัตราการขยายตัวเกินร้อยละ 10 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตของภาคเศรษฐกิจดังกล่าวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกเมื่อปี 2551 เป็นต้นมา
การขยายตัวดังกล่าว เป็นผลมาจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ การเพิ่มขึ้นของรายได้ที่แท้จริง (real wages) และการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเงินเปโซชิลี ที่ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชาวชิลีสูงขึ้น รวมถึงการเปิดสาขาของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่หลายแห่งที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้สะดวกขึ้นด้วย ทั้งนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น El Mercurio ร้อยละ 60 ของการค้าในชิลี เกิดขึ้นในห้างค้าปลีก ซึ่งเป็นศูนย์รวมสินค้าที่ให้ทางเลือกแก่ผู้บริโภคอย่างหลากหลาย นอกจากนี้ ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าประเภทเครื่องเรือน คอมพิวเตอร์ อาหารและหนังสือในชิลีมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี แม้ว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงจะส่งผลดีต่อการค้าปลีกภายในประเทศ แต่กลับส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของชิลี ซึ่งเป็นเป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานกว่า 8 แสนตำแหน่ง โดยประธานสมาคมเกษตรกรรมแห่งชาติชิลี (National Society of Agricultre) ระบุว่า ปัจจุบัน ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมผลไม้กว่าร้อยละ 40 กำลังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินเปโซชิลีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: www.santiagotimes.cl ประจำวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 2011
อัตราการว่างงานในเขตนครหลวงซันติอาโกต่ำที่สุดในรอบ 13 ปี
คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยชิลี เผยผลการศึกษาว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2554 มีประชากรวัยทำงานในเขตนครหลวงซันติอาโก จำนวน 236,400 คน หรือเท่ากับร้อยละ 8.1 อยู่ในภาวะว่างงาน ซึ่งถือเป็นอัตราการว่างงานในเขตนครหลวงซันติอาโกที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา โดยน่าจะเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานโดยภาคเศรษฐกิจที่สร้างงานเพิ่มมากที่สุดในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นภาคการคมนาคมขนส่ง ซึ่งมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.6 อุตสาหกรรมการผลิตร้อยละ 8.0 และอุตสาหกรรมก่อสร้างร้อยละ 6.4
ที่มา: http://www.cooperativa.cl ประจำวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2011
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจชิลีคนใหม่แถลงนโยบายหลักในการบริหารงาน
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2554 นายปาโบล ลองเกรา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจชิลีคนใหม่ ได้แถลงนโยบายหลักในการบริหารงานว่า ตนจะให้ความสำคัญกับการปกป้องรักษาและคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้บริโภคอย่างดีที่สุด โดยนายลองเกรา แจ้งว่า ตนจะเร่งเสนอกฎหมายเพื่อจัดตั้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงินในโอกาสแรก เนื่องจากในระยะนี้ เกิดปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมในการเรียกเก็บเงินและคำนวณดอกเบี้ยจากการให้สินเชื่อของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในชิลีถึงสองรายติดๆ กัน ได้แก่ กรณีห้างสรรพสินค้า La Polar และซูเปอร์มาร์เกต Lider
นอกจากนี้ นายลองเกรา ยังวางแผนที่จะเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายให้บุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในระบบ Dicom ซึ่งเป็นระบบของบริษัทเอกชนที่จัดการข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลในระบบการเงินและการค้าของชิลี สามารถถอนชื่อออกได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมดำเนินการ รวมทั้งต้องการจะสนับสนุนให้การรวมตัวของผู้บริโภคเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมจากผู้ให้บริการหรือผู้ขายเป็นไปได้อย่างง่ายดายขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์ El Mercurio ประจำวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 2011
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)