อาร์เจนตินาประกาศเปิดไต่สวนการทุ่มตลาดเครื่องปรับอากาศจากไทย
                                                                                          โดย สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส
                                                 (http://www.thaiembargen.org อีเมลล์ [email protected] )

               สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสเอเรส ได้รายงานเรื่องการเปิดไต่ส่วนการทุ่มตลาด(anti-dumping) เครื่องปรับอากาศของไทย ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้ 
              1. กระทรวงอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว แจ้งว่า ทางการอาร์เจนตินาได้ประกาศ
เปิดการไต่สวนการทุ่มตลาด (anti-dumping) เครื่องปรับอากาศจากไทย โดยอ้างกฎหมายภายในประเทศเลขที่ 24.425 เพื่ออนุวัติตามความตกลงการบังคับใช้ข้อ 6 ของความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลากากรและการค้า (General Agreement on Tariffs and Trade - GATT) เรื่อง สิทธิการไต่สวนการทุ่มตลาดเครื่องปรับ อากาศและชิ้นส่วนที่มี cooling capacity ต่อชั่วโมงเล็กกว่าหรือเท่ากับ 6,500 ที่นำเข้าจากไทย มาเลเซีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม นอกจากนี้ อาร์เจนตินายังได้เปิดไต่สวนการทุ่มตลาดสินค้าจากประเทศอื่นๆ  อาทิ บราซิล จีน และอินโดนีเซีย ฯลฯ โดยเฉพาะสินค้านำเข้าจากจีนหลายร้อยรายการและขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวน สำหรับกรณีของอินโดนีเซีย ทางบริษัทอินโดนีเซียที่เกี่ยวข้องจำนวนประมาณ 10 ราย ได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี รวมทั้งได้จ้างทนายความท้องถิ่นเพื่อเป็นตัวแทนบริษัทในการชี้แจงและดำเนินคดี ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลการตัดสินภายในกลางปี 2553 นี้  ทั้งนี้  ไทยเคยส่งสินค้าเครื่อง -ปรับอากาศไปอาร์เจนตินาสูงเป็นอันดับ 4 สร้างรายได้ให้ประเทศสูงถึง 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี
              2. การดำเนินการของทางการอาร์เจนตินาดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายการ
ปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศอย่างจริงจังของรัฐบาลประธานาธิบดี Cristina Fernandez de Kirchner ด้วยเหตุนี้ จึงมีบางประเทศที่เริ่มหาแนวทางสำหรับหลีกเลี่ยงมาตรการป้องกันตลาดของอาร์เจนตินา ยกตัวอย่างเช่น ภาคเอกชนเกาหลีใต้ได้เริ่มลงทุนสร้างโรงงานผลิตสินค้าภายในอาร์เจนตินา โดยเฉพาะที่จังหวัด Tierra del Fuego ซึ่งรัฐบาลอาร์เจนตินาสนับสนุนให้เป็นเขตการค้าเสรีพิเศษ โดยสื่อท้องถิ่นได้รายงานข่าวว่า บริษัท Samsung และ LG ได้ประกาศจะร่วมทุนกับบริษัท Brightstar เพื่อสร้างโรงงานผลิตโทรศัพท์มือถือที่จังหวัดดังกล่าว สำหรับในอนาคต รัฐบาลอาร์เจนตินามีแนวโน้มที่จะกีดกันสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสินค้าบางชนิดที่อุตสาหกรรมภายในประเทศสามารถผลิตได้เองและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเป็นนโยบายการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า (Import Substitution) ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่สินค้าส่งออกอื่นๆ ของไทยไปอาร์เจนตินาอาจได้รับผลกระทบจากนโนบายดังกล่าว ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการไทยจะต้องหันมาสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวของมาตรการดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ผู้สนใจสามารถสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ของอาร์เจนตินาเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ http://www.thaibizargen.com