บาห์เรนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่และสะพานทางเชื่อมบาห์เรน-กาตาร์ในการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

บาห์เรนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่และสะพานทางเชื่อมบาห์เรน-กาตาร์ในการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 ต.ค. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 4,207 view

 

บาห์เรนก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่และสะพานทางเชื่อมบาห์เรน-กาตาร์ในการ

ฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ

 


สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมานามา
(
http://www.thaiembassybahrain.org/หรืออีเมล์ [email protected])

 

 

(ภาพจาก www.google.com)

 


                      รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์บาห์เรน จะมีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่ขึ้นเพื่อสนองตอบต่อการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการที่ดินเพื่อการอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้นจำนวนหลายเท่าตัวและมีปริมาณมากกว่าในปี 2553 ถึงแม้ว่าในช่วงต้นปี 2554 จะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้น โดยนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่จะจัดตั้งขึ้นบริเวณใกล้กับบริษัท Alba โดยแบ่งพื้นที่เป็น 250 แปลงๆละ 1,000 ตารางเมตร โดยมีบริษัท Mansour Al Ali เป็นเจ้าของโครงการและกระทรวงอุตสารหกรรมและพาณิชย์บาห์เรนจะเป็นผู้ควบคุมดูแล โดยนิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่จะดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ อาทิ การผลิตอาหาร การก่อสร้าง พลังงานทดแทน อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ อุตสาหกรรมยา และคลังสินค้า ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการแจ้งว่า โครงการก่อสร้างสะพานทางเชื่อมบาห์เรน-กาตาร์ ระยะทาง 40 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางรถยนต์ 4 ช่องและทางรถไฟ 2 เส้น มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างได้ในทันทีภายหลังจากที่ได้มีการปรับเปลี่ยนการออกแบบก่อสร้างเสร็จสิ้น เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาล GCC ได้ตัดสินใจให้สร้างเส้นทางรถไฟเพิ่มขึ้น เพื่อเชื่อมกลุ่มประเทศ GCC ด้วย โดยคาดว่าจะมีรถยนต์ใช้สะพานเชื่อมดังกล่าวประมาณวันละ 4,000 คัน ปัจจุบัน หน่วยงานทุกภาคส่วนของบาห์เรนได้เร่งการดำเนินการด้านต่างๆเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นและการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนชาวต่างชาติ และเร่งพัฒนาประเทศในด้านต่างๆให้มีความรุดหน้าต่อไป ทั้งนี้ภาคส่วนต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจได้เร่งความพยายามอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อแสดงให้ประชาคมโลกเห็นว่าบาห์เรนสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติแล้ว ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัวลงบ้าง ซึ่งก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากภายหลังจากที่ประเทศได้ประสบปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงต้นปี 2554 โดยจะเห็นได้จากการที่ภาครัฐได้ดำเนินการโครงการต่างๆ ให้มีความก้าวหน้าต่อเนื่องพัฒนาเพื่อให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเดินหน้าได้ต่อไป