วันที่นำเข้าข้อมูล 12 ต.ค. 2554
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565
เจาะลึกเศรษฐกิจดูไบ
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ
อีเมล์ [email protected]
ภาพจาก www.google.com
ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวนยากจะคาดเดาอยู่นี้ กลับดูเหมือนว่าจะไม่ทำให้ความพยายามในการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของดูไบนั้นลดน้อยถอยลงไปเลย สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ จึงได้ส่งตรงรายงานความคืบหน้าทางเศรษฐกิจที่สำคัญของเมืองดูไบมาฝากคอเศรษฐกิจทุกท่านให้ได้ติดตามกัน
ขณะนี้ ภาพรวมทางเศรษฐกิจของดูไบกำลังเติบโตไปในทิศทางบวก โดยรายงานของสภาหอการค้าดูไบ ระบุว่าทั้งการค้า การส่งออกและการนำเข้าเพื่อการส่งออกของดูไบ ต่างก็เพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว สำหรับสถิติการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงเดือนมกราคม สิงหาคม 2554 พบว่า สินค้าส่งออกของไทยมายังยูเออี 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) รถยนต์และอะไหล่ 2) ชิ้นส่วนประกอบเครื่องรับคลื่นความถี่สำหรับวิทยุและโทรทัศน์ 3) อัญมณีและเครื่องประดับ 4) เครื่องวิเคราะห์ข้อมูลอัตโนมัติและอะไหล่ 5) เครื่องปรับอากาศและอะไหล่ ส่วนสินค้าที่ประเทศไทยนำเข้าจากยูเออี 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) น้ำมันดิบ 2) ก๊าซธรรมชาติ 3) น้ำมันดิบที่ผ่านการแปรรูปแล้ว 4) เครื่องประดับ เงินแท่ง ทองคำแท่ง 5) เหล็กและเศษเหล็ก
ในส่วนของการลงทุน ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดูไบกำลังพัฒนาให้รัฐกลายเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุน ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา H.H. Shiekh Mohammed Bin Rashid Al Maktoum เจ้าผู้ครองรัฐดูไบ ได้อนุมัติ 3 โครงการหลักที่กรมพัฒนาเศรษฐกิจได้เสนอ เพื่อประโยชน์สำหรับการลงทุนในดูไบ ได้แก่ 1) การจัดตั้งสถานประกอบการลงทุนในต่างประเทศ (Foreign Investment Establishment) ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนการค้า วีซ่า และช่องทางการสื่อสารที่ทันสมัย เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนในดูไบเพิ่มขึ้น 2) แก้ไขข้อกำหนดสำหรับการจดทะเบียน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนด้านการบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และ3) การสร้างกองทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ซึ่งจะเน้นการสนับสนุนด้านทุนทรัพย์ การศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับการทำธุรกิจต่างๆ
นอกจากนี้ การผลักดันให้รัฐเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางอากาศยังคงเป็นประเด็นที่เจ้าผู้ครองรัฐดูไบให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ ซึ่งทางฝั่งนักลงทุนเองก็ให้ความสนใจโครงการ Dubai World Central ที่ทางรัฐบาลดูไบพยายามผลักดันให้กลายเป็นเมืองล้อมรอบศูนย์กลางแห่งการบิน (aerotropolis) ซึ่งมีศูนย์กลางเป็นสนามบินนานาชาติ Al Maktoum โดยโครงการดังกล่าวเป็นการลงทุนระยะยาว 25 ปี เพื่อดึงดูดนักลงทุนโดยเฉพาะในสาขาปิโตรเลียมและก๊าซ
ทางด้านการท่องเที่ยวดูไบก็ไม่น้อยหน้า โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ธุรกิจและโครงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว อาทิ โรงแรม อาคารพาณิชย์ และศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้นักลงทุนต่างชาติจะชะลอการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก แต่ภาพรวมของสภาพแวดล้อมและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองของยูเออีนั้น เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ให้นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ยังคงสนใจที่จะลงทุนในดูไบอยู่
จะเห็นได้ว่าผู้นำของดูไบมีวิสัยทัศน์ที่น่าสนใจและมีกลยุทธเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่เหมือนใคร โดยเน้นการลงทุนทั้งๆที่ภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันแปรสูง เรียกได้ว่าเป็นการตักตวงโอกาสหรือการสร้างวิกฤตให้เป็นโอกาสสำหรับดูไบ และถ้าหากดูไบมีความพร้อมด้านการสื่อสาร ระบบการขนส่ง การคมนาคม และสาธารณูปโภคต่างๆอย่างครบครันแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถดึงดูดนักลงทุนในภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อถึงเวลานั้นดูไบก็จะมีศักยภาพและความสามารถรองรับความต้องการในการลงทุนของตลาดได้อย่างเต็มที่สมกับการลงทุนที่วางแผนมาเป็นอย่างดีนั่นเอง
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)