วันที่นำเข้าข้อมูล 22 พ.ย. 2554
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565
เกาะติดเศรษฐกิจฮ่องกง
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
วิกฤตเศรษฐกิจโลกส่งผลกระทบตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงชะลอตัว
นาย Lee Wee Liat หัวหน้าฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท Samsung Securities ฮ่องกง เปิดเผยว่า ภาวะตลาดโลกที่ซบเซาอาจทำให้ผู้ซื้อชะลอการซื้ออสังหาริมทรัพย์ และมีแนวโน้มว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวลงในช่วง 6 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากตลาดขาดสภาพคล่อง ซึ่งสภาวการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จำต้องลดราคาอสังหาริมทรัพย์ และยอมที่จะได้รับกำไรลดลง
บริษัท Centaline Property Agency บริษัทนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ปริมาณการทำธุรกรรมซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของเอกชนขนาดใหญ่ในฮ่องกง 10 แห่ง ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 42 เช่นเดียวกับ ราคาเสนอขายห้องชุด The Wings ชุดที่ 2 ในเขต Tseung Kwan O ซึ่งเป็นของบริษัท Sun Hung Kai Properties (SHKP) ได้ลดลงจากราคาเสนอขายชุดแรกร้อยละ 30 เหลือเพียง 8,750 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตารางฟุต การเปลี่ยนแปลงราคาของ SHKP ทำให้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ต้องปรับลดราคาเสนอขายตามไปด้วย อาทิ ราคาเสนอขายห้องชุดที่ Meridian Hill ในเขต Kowloon Tong ลดลงร้อยละ 9 จากราคาเสนอขายก่อนหน้าเหลือ 14,136 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตารางฟุต
นอกจากนี้ บริษัท Sino Land ยังเปิดจำหน่ายห้องชุดระดับหรูในเขต Tai Po โดยตั้งราคาเฉลี่ยที่ 10,731 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตารางฟุต ต่ำกว่าราคาที่ตั้งไว้เดิมร้อยละ 30 สำนักลงทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ (Land Registry) ของฮ่องกงเปิดเผยว่า ปริมาณการทำธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ลดลงติดต่อกัน 3 เดือน โดยเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีการทำธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ 5,675 ธุรกรรม ลดลงร้อยละ 13.7 จากเดือนกันยายน และถือว่าน้อยที่สุดนับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2552 นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า มาตรการควบคุมการเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล อาทิ การกำหนดอากรแสตมป์พิเศษร้อยละ 15 สำหรับการขายต่อห้องชุดในระยะสั้น การขึ้นภาษีเงินกู้อสังหาริมทรัพย์ และการจำกัดสภาพคล่องของตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงมีแนวโน้มชะลอตัว
ธนาคาร HSCB ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจฮ่องกงลง
ธนาคาร HSBC ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ของฮ่องกงในปี 2554 นี้ลดลงจากร้อยละ 6.5 เหลือร้อยละ 5.4 และยังได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การเจริญเติบโตของ GDP ในปี 2555 ลดลงจากร้อยละ 5.4 เหลือร้อยละ 4.5 ทั้งนี้ นาย Frederick Neumann หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจเอเชียของธนาคาร HSBC ให้ความเห็นว่า การส่งออกของฮ่องกงชะลอตัวลงมาก ซึ่งภาวะดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อภาคการขนส่ง นอกจากนี้ ตลาดการเงินในภาพรวมยังคงมีความผันผวนซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี ธนาคาร HSBC คาดการณ์ว่า ธุรกิจค้าปลีกที่ยังแข็งแกร่งและรายรับจากการท่องเที่ยวจะช่วยให้เศรษฐกิจฮ่องกงไม่เข้าสู่ภาวะซบเซา ประกอบกับเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องจะมีส่วนช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจฮ่องกงและภูมิภาคด้วย โดยธนาคาร HSBC ยังคงตัวเลขคาดการณ์อัตราการเจริญเติบโตของ GDP ของจีนอยู่ที่ร้อยละ 9 และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนจะลดลง
นอกจากนี้ ธนาคาร HSBC ยังคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในฮ่องกงในไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 จะสูงขึ้นจากร้อยละ 4.2-4.8 เป็นร้อยละ 6.1 และคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 6.4 ในปลายปี 2555 เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาอสังหาริมทรัพย์และค่าจ้างในฮ่องกง นาย John Tsang Chun wah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกงให้ความเห็นว่า เศรษฐกิจฮ่องกงเริ่มมีแนวโน้มชะงักงันในช่วงสั้นๆ โดยมีมูลค่าการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในเดือนกันยายนที่ผ่านมา จำนวน 2.72 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง ลดลงร้อยละ 3 และนับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)