ภาวะซบเซาตลาดโลกกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจฮ่องกง

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
(http://www.thaibizchina.com อีเมล์ [email protected] )

ภาพจาก www.thaibizchina.com

             ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลฮ่องกง แต่จากตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจแสดงให้เห็นว่า ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา เศรษฐกิจฮ่องกงยังคงอยู่ในภาวะซบเซา

             ธนาคาร HSBC ได้จัดทำดัชนี Market Purchasing Managers Index (PMI) ซึ่งเป็นดัชนีติดตามการเคลื่อนไหวของ GDP ของฮ่องกง โดยระบุว่า เศรษฐกิจฮ่องกงกำลังอยู่ในภาวะซบเซา และสถานการณ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทในฮ่องกงอยู่ในภาวะตกต่ำที่สุดในรอบ 28 เดือน

             นาย Erik Lueth นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Royal Bank of Scotland (RBS) ประจำฮ่องกง ให้ความเห็นว่า ปัจจุบันได้มีการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างฮ่องกงกับจีน แต่ในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจฮ่องกงยังคงเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย จึงทำให้ฮ่องกงได้รับผลกระทบจากภาวะที่เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังจะเห็นได้จากการที่ GDP ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ลดลงจากไตรมาสแรกร้อยละ 0.5 อย่างไรก็ดี ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นภาวะถดถอยเชิงเทคนิค* (Technical Recession) เท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันแล้วก็นับว่าไม่ร้ายแรงนัก

             ขณะที่ นางสาว Donna Kwok นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคาร HSBC ของจีน ให้ความเห็นว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างฮ่องกงกับจีนจะช่วยให้ GDP ของฮ่องกงในไตรมาสที่ 3 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้านี้เพียงร้อยละ 0.3  เท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในทวีปเอเชียแล้ว ฮ่องกงนับว่าได้รับผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากฮ่องกงได้รับผลจากการพัฒนาในเชิงบวกจากจีนทั้งด้านการค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยว และการค้าปลีก ดังจะเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 18.3 ล้านคนในปีนี้ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 23) และส่งผลให้มูลค่าการค้าปลีก (retail sales) เพิ่มสูงถึง 2.64 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง (เพิ่มขึ้นร้อยละ 25.6) นอกจากนี้ ปริมาณการขนส่งทางน้ำสูงขึ้นร้อยละ 7.4  ซึ่งส่วนใหญ่มีจุดหมายการขนส่งในจีน

             ทั้งนี้ บริษัท Grant Thornton ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านบัญชี ได้เปิดเผยว่า ฮ่องกงได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในห้าเมืองในจีนที่มีการจ้างงานสูงที่สุด โดยจำนวนธุรกิจในฮ่องกงในไตรมาสที่ 3 มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 62 เมื่อเปรียบเทียบกับในไตรมาสที่ 2 ที่มีอัตราจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 50

             นาย Lueth ให้ความเห็นว่า ฮ่องกงยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจฮ่องกงจะได้รับการเกื้อหนุนจากปริมาณนักท่องเที่ยวชาวจีน และการค้าปลีกที่ขยายตัวขึ้น แต่ร้อยละ 50 ของ GDP ของฮ่องกงมาจากการส่งออกภาคบริการ และร้อยละ 70 ของการส่งออกภาคบริการมาจากการบริการด้านการค้า ดังนั้น บทบาทในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศของฮ่องกงจึงมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจฮ่องกงมากกว่าบทบาทในการเป็นเพียงแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีน

* ภาวะถดถอยเชิงเทคนิค* (Technical Recession) คือ ภาวะที่อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจติดลบจากไตรมาสก่อนหน้าติดต่อกันเป็นเวลา 2 ไตรมาส หากติดลบเกินกว่า 2 ไตรมาสจะถือเป็นภาวะถดถอยอย่างแท้จริง (Real Recession)


ติดตามความเคลื่อนไหวรายมณฑลของจีนทุกวันได้ที่ www.thaibizchina.com และขอรับ e-news letter ฟรีที่ [email protected]