ฮ่องกงยืนยันไม่ยกลเลิกการผูกติดดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
(http://www.thaibizchina.com อีเมล์ [email protected] )

             แม้สหรัฐอเมริกาจะบรรลุข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้ แต่ทั่วโลกยังคงหวั่นเกรงความผันผวนของวิกฤตเศรษฐกิจหลังจากบริษัท S&P (Standard and Poors) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือในการชำระหนี้ปรับลดเครดิตระยะยาวของสหรัฐอเมริกาจากระดับสูงสุด AAA ลงมาเหลือ AA+ ซึ่งถือเป็นการปรับลดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ดี Hong Kong Monetary Authority (HKMA) เปิดเผยว่า ฮ่องกงยังไม่มีนโยบายในการเปลี่ยนการผูกติดเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับเงินดอลลาร์สหรัฐ

             การที่ดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดอยู่กับดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้เงินทุนส่วนใหญ่ในกองทุนสำรองอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศของฮ่องกงอยู่ในรูปการลงทุนผ่านหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีมูลค่ากว่า 2.43 ล้านล้านดอลลาร์ฮ่องกง อย่างไรก็ดี นาย Norman Chan Tak-lam ผู้บริหารสูงสุดของ HKMA ให้ความเห็นว่า การที่บริษัท S&P ปรับลดเครดิตของสหรัฐอเมริกาไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการคลังของสหรัฐฯ มากนัก เพราะแม้ตลาดโลกจะยังคงความผันผวน แต่นักลงทุนก็ยังคงเลือกลงทุนผ่านพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ เพราะยังเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยและมีสภาพคล่องสูงสุด เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในการชำระเงินระหว่างประเทศ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะปัจจุบันยังไม่มีเงินสกุลอื่นมาทดแทนดอลลาร์สหรัฐได้

             ดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐตั้งแต่ปี 2526 โดย HKMA จะเข้าไปแทรกแซงค่าเงินต่อเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวนอกเหนือจากช่วง 7.75-7.85 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยก่อนหน้านี้การผูกติดดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาความกังวลต่อผลกระทบกับค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงหลังจากการคืนฮ่องกงกลับสู่จีนในปี 2540 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันได้มีนักวิเคราะห์เรียกร้องให้รัฐบาลฮ่องกงเปลี่ยนระบบการผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่า การผูกติดดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐทำให้ฮ่องกงต้องกำหนดอัตราดอกเบี้ยโดยอ้างอิงกับสหรัฐฯ ซึ่งไม่สอดคล้องกับการที่ฮ่องกงมีระบบการเงินที่เป็นอิสระ ซึ่งนาย Chan ได้แย้งว่า แม้ดอลลาร์ฮ่องกงจะเปลี่ยนไปผูกติดกับเงินสกุลอื่น ฮ่องกงก็ไม่สามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยได้เอง เนื่องจากยังต้องคำนึงถึงความเคลื่อนไหวของดอกเบี้ยของประเทศที่ดอลลาร์ฮ่องกงผูกติดกับเงินสกุลนั้นๆ ด้วย

             นาย John Tsang Chun-wah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฮ่องกง เปิดเผยว่า ฮ่องกงมิได้เพิกเฉยต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่วิกฤตหนี้สหรัฐฯ อาจจะย่ำแย่ลง เนื่องจากได้มีการเตรียมแผนรับมือกรณีฉุกเฉินไว้แล้ว แต่ในอีกด้านหนึ่งก็อาจเป็นโอกาสสำหรับฮ่องกง เนื่องจากการที่บริษัท S&P ปรับลดเครดิตของสหรัฐฯ จะเป็นประโยชน์ต่อการผลักดันให้เงินหยวนกลายเป็นสกุลเงินระหว่างประเทศ และจะช่วยส่งเสริมบทบาทของฮ่องกงในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจเงินหยวนนอกประเทศจีน


ติดตามความเคลื่อนไหวรายมณฑลของจีนทุกวันได้ที่ www.thaibizchina.com และขอรับ e-news letter ฟรีที่ [email protected]