EuroCham ประกาศลดความเชื่อมั่นในเวียดนาม

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
(http://hanoi.thaiembassy.org หรืออีเมล์
[email protected] , [email protected])

ภาพจาก www.google.com

             ประเทศเพื่อนบ้านของเราที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นทั้งคู่ค้าและคู่แข่งทางการค้าของไทย คงหนีไม่พ้นประเทศเวียดนาม ด้วยทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์และทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ส่งผลให้เวียดนามมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุด หนังสือพิมพ์ Vietnam News ได้รายงานว่า หอการค้าสหภาพยุโรปประจำเวียดนาม หรือ EuroCham ได้ประกาศลดระดับความเชื่อมั่นในเวียดนาม เรื่องนี้มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย มีข้อมูลมาฝากกัน

             เมื่อเดือนกรกฏาคม 2554 ที่ผ่านมา หอการค้าสหภาพยุโรปประจำเวียดนามได้ทำการสำรวจระดับความเชื่อมั่นกับบริษัทที่ลงทุนในเวียดนาม เพื่อจัดทำดัชนีที่เรียกว่า Business Climate Index สำรวจความคิดเห็นจากบริษัทที่ลงทุนในเวียดนามทั้งภาคบริการ ภาคการผลิต และภาคการค้า ซึ่งผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน จากระดับ 70 จุด เหลือ 63 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของธุรกิจตนและความไม่มั่นใจในสถานการณ์ปัจจุบัน 

             ทั้งนี้ ในจำนวนบริษัทที่เข้าร่วมการสำรวจมีกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในภาคบริการ หนึ่งในสี่อยู่ในภาคการผลิต ที่เหลืออยู่ในภาคการค้า จากการตอบแบบสอบถามของบริษัทต่างๆ มีความน่าสนใจ กล่าวคือ ในช่วงไตรมาสที่สอง ร้อยละ 56 ของบริษัทเห็นว่า ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบันอยู่ในระดับดี ลดลงจากไตรมาสแรกที่อยู่ร้อยละ 64 ขณะเดียวกัน มีบริษัทที่มีทัศนคติในเชิงลบต่อสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันของเวียดนามเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ระดับร้อยละ 12-16 บริษัทที่เห็นว่า อนาคนการทำธุรกิจในเวียดนามจะอยู่ในระดับดีและดีมากนั้น มีเพียงร้อยละ 41 ลดลงร้อยละ 10 จากการสำรวจครั้งก่อน ซึ่งทัศนคติเชิงบวกในช่วงไตรมาสแรกจะอยู่ที่ร้อยละ 72

             สำหรับเรื่องการสำรวจแผนการลงทุนในปี 2554 พบว่า ร้อยละ 32 ของบริษัทลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรักษาระดับการลงทุนไว้เท่าเดิม ส่วนอีกร้อยละ 31 มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการลงทุนในเวียดนามเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ มีบริษัทกว่าร้อยละ 52 ที่คาดว่าจะลงทุนเพิ่มในเวียดนาม แต่ในทางกลับกัน ก็ยังมีบริษัทอีกร้อยละ 45 ที่คงรักษาระดับการลงทุนหรือมีแนวโน้มที่จะลดการลงทุน นอกจากนี้ ในการสอบถามเกี่ยวกับรายได้ในช่วงกลางปี พบว่า ร้อยละ 54 ของบริษัทคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงไตรมาสก่อน ส่วนด้านการสั่งซื้อวัตถุดิบ พบว่า ร้อยละ 42 ยังคงมีการสั่งซื้อที่ไม่แตกต่างหรือลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนที่ร้อยละ 56

             ในด้านการจ้างงาน ปรากฎว่า ร้อยละ 51 ของบริษัทจะมีการจัดจ้างพนักงานเพิ่มในช่วงกลางปีนี้ ส่วนอีกร้อยละ 31 จะไม่มีการจ้างพนักงานเพิ่มเติม ในขณะที่ร้อยละ 9 จะลดการจ้างพนักงานลง ในส่วนอัตราเงินเฟ้อ บริษัทร้อยละ 56 คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 37 คาดว่าจะได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อย ในขณะที่ร้อยละ 6 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการทำธุรกิจในเวียดนาม นอกจากนี้ ในด้านการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ พบว่า บริษัทร้อยละ 53 เห็นว่าการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐมีผลต่อการทำธุรกิจเท่าเดิม ร้อยละ 33 เห็นว่าส่งผลต่อธุรกิจมากขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 10 เห็นว่าการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐมีผลต่อการทำธุรกิจน้อยลง


สำเนาข่าวตัดจากหนังสือพิมพ์ Vietnam News