รัฐบาลอินเดียเรียกความมั่นใจนักลงทุนในตลาดหุ้น

รัฐบาลอินเดียเรียกความมั่นใจนักลงทุนในตลาดหุ้น

วันที่นำเข้าข้อมูล 31 ส.ค. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565

| 1,701 view

รัฐบาลอินเดียเรียกความมั่นใจนักลงทุนในตลาดหุ้น


สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองมุมไบ
(อีเมล์
[email protected])


 
ภาพจาก www.google.com



             จากแผนการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา ทำให้บริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ซึ่งเป็น บริษัทจัดลำดับความน่าเชื่อถือแถวหน้า  ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ลงจากระดับ AAA มาอยู่ที่ระดับ AA+ ก่อให้เกิดความกังวลต่อนักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกว่า สหรัฐฯอาจเผชิญกับสภาวะถดถอยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกจากตลาดหุ้นประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียอย่างหนัก รวมถึงอินเดียด้วย โดยตลาดหุ้น Bombay Stock Exchange Sensex ได้ปรับตัวลงอย่างรุนแรง ถึงจุดต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ดังนั้น รัฐบาลอินเดียและธนาคารกลางจึงจำเป็นต้องออกมาให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนถึงพื้นฐานเศรษฐกิจของอินเดียที่ยังแข็งแกร่งอยู่

             นาย Pranab Mukherjee รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดีย แถลงว่า พัฒนาการในสหรัฐฯและสหภาพยุโรปได้ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอินเดีย อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อมั่นว่า ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของอินเดียจะทำให้อินเดียสามารถเผชิญความท้าทายดังกล่าวได้ และตลาดหุ้นอินเดียยังน่าลงทุนสำหรับนักลงทุนต่างชาติประเภทสถาบัน เพราะให้ผลตอบแทนที่ดี ขณะนี้ ธนาคารกลางกำลังติดตามพัฒนาการของตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจะออกมาตรการที่รวดเร็วและเหมาะสม เพื่อรักษาความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน โดยให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องและการมีเงินรูปีในตลาดอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันความผันผวนในอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งออกมาตรการปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจที่คั่งค้างอยู่ เพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ อาทิ การเปิดรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในสาขาค้าปลีกหลายตราสินค้า การอนุมัติสัมปทานเหมืองถ่านหินสำหรับโครงการผลิตกระแสไฟฟ้า และการอนุมัติโครงการลงทุนที่สำคัญๆ

             อย่างไรก็ตาม บริษัทสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ได้ออกมาเตือนว่า หากเศรษฐกิจโลกตกต่ำลงอีกครั้ง บริษัทฯ อาจมีการปรับลดความน่าเชื่อถือของประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงอินเดีย โดยชี้ว่ามีความเชื่อมโยงของตลาดทั่วโลก ดังนั้นเมื่อเกิดการสะดุดลงอย่างรุนแรงในตลาดการเงินในประเทศที่พัฒนาแล้ว ย่อมเปลี่ยนโฉมหน้าของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ดังนั้น แม้ว่ารัฐบาลอินเดียจะออกมาให้ความมั่นใจแล้ว แต่คำเตือนดังกล่าว ก็น่าจะมีผลทางจิตวิทยาต่อตลาดหุ้นของอินเดีย โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นอินเดียจะปรับตัวลดลงอีก

             ทั้งนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอินเดียในช่วงที่ผ่านมามีการชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากการปรับขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะอาหารและพลังงาน ซึ่งทำให้อินเดียต้องเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อระดับสูงจนธนาคารกลางต้องปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย  ส่งผลต่อการเติบโตของภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งเมื่อประกอบกับความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯและยุโรป จึงมีผลทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นอินเดียลดลงตามไปด้วย


สำเนาข่าวตัดจากสื่อของอินเดีย