จีนช่วยเหลือโรงงานผลิตสินค้าของชาวฮ่องกงในเขต PRD

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
(http://www.thaibizchina.com อีเมล์ [email protected] )

ภาพจาก www.google.com

             หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศยกระดับห่วงโซ่คุณค่า (value chain) และเทคโนโลยีการผลิต ภายใน 5 ปี หวังปรับเปลี่ยนจากการเป็นฐานการผลิตสินค้าราคาถูกของโลก มาเป็นฐานการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าและคุณภาพสูงขึ้น จึงส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Delta: PRD) เร่งปรับตัวและเดินหน้าพัฒนาคุณภาพการผลิตและคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้น แต่ผลกระทบที่ตามมา นั่นก็คือ โรงงานผลิตสินค้าของฮ่องกงในเขต PRD ปิดตัวลงเกือบครึ่งหนึ่ง เพราะทนแบกรับค่าจ้างแรงงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาไม่ไหว

             ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลท้องถิ่นมณฑลกวางตุ้ง จึงคลอดมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือโรงงานผลิตสินค้าของฮ่องกงในเขตมณฑลกวางตุ้ง ที่ผลิตสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าค่อนข้างต่ำ ไม่ว่าจะเป็น การประกาศมาตรการยกเว้นภาษีสำหรับนำเข้าเครื่องจักร การปรับขั้นตอนการขอใบรับรองประกอบการค้าให้สะดวกขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือเจ้าของโรงงานชาวฮ่องกงที่เข้าไปผลิตสินค้าในมณฑลกวางตุ้ง เป็นต้น อย่างไรก็ดี รัฐบาลจีนได้ย้ำให้โรงงานต่างๆ ในเขตมณฑลกวางตุ้งต้องยกระดับการผลิตเพื่อลดการก่อมลพิษและประหยัดพลังงาน โดยรัฐบาลจีนจะไม่สนับสนุนโรงงานที่นำเข้าวัตถุดิบในการผลิตสินค้าส่งออกที่ใช้แรงงานจำนวนมาก ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ประหยัดพลังงาน

             ขณะที่ นาย Stanley Lau Chin-ho รองประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมฮ่องกง (The Federation of Hong Kong Industries) แสดงความเห็นว่า แม้นโยบายดังกล่าว จะแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ผ่อนปรนของรัฐบาลจีนที่มีต่อโรงงานในเขต PRD แต่ผู้ผลิตก็ยังจำเป็นต้องพัฒนาและก้าวให้ทันระบบอุตสาหกรรมแบบใหม่ของรัฐบาลโดยการเพิ่มคุณค่าให้สินค้าของตน ซึ่งรวมถึงการสร้างแบรนด์ การพัฒนาการออกแบบ นวัตกรรมของสินค้า และการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคในจีน นอกจากนี้ ผู้ผลิตยังต้องเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและส่งเสริมการใช้ระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตด้วย

             ด้าน ดร. Roy Chung Chi-ping ประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมฮ่องกง มีความเห็นว่า แม้ฮ่องกงจะมีบทบาทในด้านการเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก แต่รัฐบาลฮ่องกงก็ควรกำหนดนโยบายด้านอุตสาหกรรมของฮ่องกงให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้ฮ่องกงเกิดจุดอ่อนด้านอุตสาหกรรม ทั้งยังเสนอว่า ฮ่องกงอาจเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมเพิ่มมูลค่าให้สินค้าที่หายาก โดยแนวคิดนี้ มีพื้นฐานมาจากการผลิตสินค้าประเภทอาหารของฮ่องกงที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในตรา Made in Hong Kong เพิ่มขึ้นมากกว่าสินค้าประเภทอาหารที่ผลิตในจีน