วันที่นำเข้าข้อมูล 17 มิ.ย. 2554
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565
ตะลุยแดนมังกร : มณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี
จาก สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
(
ภาพจาก www.google.com
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ขอส่งตรงข้อมูลอัพเดตสถานการณ์เศรษฐกิจของมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี มาฝากท่านผู้อ่าน ดังนี้
มณฑลฝูเจี้ยน
เซี่ยเหมินออก 30 นโยบายฉลองครบ 30 ปีเขตเศรษฐกิจพิเศษ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2524 เมืองเซี่ยเหมินได้รับการจัดตั้งให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone) ซึ่งเป็นสมัยของท่านผู้นำเติ้ง เสี่ยวผิง ที่ต้องการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อเป็นพื้นที่ทดลองการนำระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรีมาใช้ในจีน และปี 2554 นี้เอง ถือเป็นปีครบรอบ 30 ปีของการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซี่ยเหมิน รัฐบาลเมืองเซี่ยเหมินจึงวางแผนออก 30 นโยบายเพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้กับประชาชน ซึ่งนโยบายเหล่านี้จะครอบคลุมถึงความต้องการพื้นฐานในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการศึกษา โดยจะมีการก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลของรัฐเพิ่มเติมอีก 24 แห่ง การศึกษาภาคบังคับจะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งในเขตเมืองและชนบท อีกทั้งยังให้สิทธิ์แก่บุตรของแรงงานอพยพด้วย
ในด้านการรักษาพยาบาล รัฐบาลจะลงทุนกว่า 270 ล้านหยวนในการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพให้เท่าเทียมกันทั้งในเมืองและชนบท นอกจากนั้น ยังพัฒนาระบบการขนส่งสาธารณะเพื่อลดความแออัดและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารมากขึ้น ทั้งการเพิ่มเส้นทางและจำนวนรถ อีกทั้งปฏิรูประบบอัตราค่าโดยสารรถประจำทางอีกด้วย
ปัจจุบันพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเซี่ยเหมินครอบคลุมพื้นที่บนเกาะ 2 เขต และพื้นที่นอกเกาะอีก 4 เขต ดังนั้น เมืองเซี่ยเหมินจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่นอกเกาะมากเป็นพิเศษเพื่อให้ความเจริญกระจายไปได้อย่างทั่วถึงทั้งเมือง
ที่มา: www.whatsonxiamen.com ประจำวันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ .2011
เซี่ยเหมินหนุนเปิดร้านสะดวกซื้อ 220 แห่งทั่วเมือง
เมืองเซี่ยเหมินมีนโยบายสนับสนุนการเปิดร้านสะดวกซื้อที่ให้บริการ 24 ชั่วโมงจำนวน 220 แห่ง ทั่วทุกชุมชน ภายในปี 2554 2558 เพื่อเพิ่มความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยให้กับประชาชน
สำนักงานพาณิชย์เซี่ยเหมินระบุว่า ร้านสะดวกซื้อทั้ง 220 แห่งจะกระจายตัวอยู่ทั่วไปในเขตชุมชนทั้งบนเกาะและนอกเกาะเซี่ยเหมิน ทั้งในเขตเมืองและเขตชนบท โดยทางเมืองจะให้การสนับสนุนบริษัทที่สนใจทั้งจากในและต่างประเทศให้เข้ามาเปิดสาขาในเซี่ยเหมิน ทั้งนี้บริษัทที่คุณสมบัติผ่านเกณฑ์จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลในการสร้างเครือข่ายร้านของตนด้วย
นโยบายการให้เงินอุดหนุนการเปิดร้านสะดวกซื้อของเมืองเซี่ยเหมินนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการกระตุ้นการบริโภคในประเทศของรัฐบาล เนื่องจากการมีร้านสะดวกซื้อกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของเมืองจะช่วยให้ประชาชนสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการกระตุ้นการบริโภคได้อีกทางหนึ่ง
ข่าวนี้จึงนับเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับนักธุรกิจไทยทั้งรายใหญ่และรายย่อย ที่สามารถใช้โอกาสลองเข้ามาศึกษาการขยายตลาดในประเทศจีน โดยเริ่มจากเมืองขนาดรองอย่างเซี่ยเหมินที่ยังมีการแข่งขันไม่รุนแรงเท่าเมืองใหญ่ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก นอกจากนี้นโยบายสนับสนุนการเปิดร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ยังส่งผลดีถึงสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยที่ส่งออกมาขายในประเทศจีน เพราะถือเป็นการเพิ่มช่องทางการกระจายสินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้มากขึ้นอีกด้วย
ที่มา: www.whatsonxiamen.com ประจำวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ .2011
ฝูโจวจับมือชิงเต่าอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรระหว่างกัน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สำนักงานศุลกากรนครฝูโจวและสำนักงานศุลกากรเมืองชิงเต่าได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจเพื่อร่วมมืออำนวยความสะดวกในการพิธีศุลกากรระหว่างกัน ซึ่งทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการผ่านพิธีศุลกากรของสินค้าที่นำเข้าและส่งออกระหว่างท่าเรือฝูโจว ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีความสำคัญของมณฑลฝูเจี้ยน และท่าเรือชิงเต่าในมณฑลซานตง ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีปริมาณสินค้าผ่านเข้าออกมากเป็นอันดับ 5 ของจีน
การร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยส่งผลดีต่อการค้าระหว่างสองพื้นที่ อีกทั้งยังถือเป็นการช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเขตเศรษฐกิจชายฝั่งตะวันตกของช่องแคบไต้หวันสำหรับนครฝูโจว และเขตเศรษฐกิจรอบอ่าวป๋อไห่สำหรับเมืองชิงเต่าด้วย
ที่มา: www.fj.chinanews.com ประจำวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ .2011
ท่าเรือเซี่ยเหมินขานรับนโยบายระงับนำเข้าเครื่องดื่มปนเปื้อนสารพิษจากไต้หวัน
ท่าเรือเซี่ยเหมินในมณฑลฝูโจว เป็นท่าเรือที่มีปริมาณสินค้าผ่านเข้าออกมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของจีน และมีส่วนในการสนับสนุนการเติบโตของการค้าในบริเวณเขตเศรษฐกิจชายฝั่งตะวันตกของช่องแคบไต้หวันเช่นเดียวกันบท่าเรือฝูโจว
เมื่อไม่นานมานี้ มีการตรวจพบสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในเครื่องดื่มหลายชนิดที่นำเข้าจากไต้หวัน สำนักงานตรวจสอบและรับรองคุณภาพสินค้าของจีนแผ่นดินใหญ่จึงออกประกาศระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ เครื่องดื่มผสมเกลือแร่ น้ำผลไม้ ชา แยมผลไม้ และสารปรุงแต่งอื่นๆ จากบริษัทผู้ผลิตในไต้หวันรวม 10 ราย โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2554 เป็นต้นมา ซึ่งท่าเรือเซี่ยเหมินในฐานะที่เป็นท่าเรือนำเข้าสินค้าจากไต้หวันที่สำคัญแห่งหนึ่งก็ได้ดำเนินการระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว
สารเคมีดังกล่าวมีชื่อว่าซู่หว้าจี้ (Plasticizing Agent) มีคุณสมบัติในการทำให้เครื่องดื่มต่างๆ ผสมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แยกชั้น ถือเป็นสารที่ห้ามนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเพราะจากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า การบริโภคสารดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลานานอาจก่อให้เกิดความผิดปกติต่อฮอร์โมนและระบบสืบพันธุ์ รวมถึงเป็นสารก่อมะเร็งด้วย แต่บริษัทผู้ผลิตในไต้หวันเลือกใช้สารนี้เพื่อประโยชน์ในการลดต้นทุน โดยจนถึงปัจจุบันคาดว่ามีบริษัทผู้ผลิตในไต้หวันที่เกี่ยวข้องกับการใช้สารนี้ถึงกว่า 200 แห่ง รวมผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นกว่า 500 รายการ
แน่นอนว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวัน แต่เมื่อทางไต้หวันสามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุคือที่บริษัทผู้ผลิตของตนได้แล้ว เชื่อว่าจะสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ต่างๆมาขายยังจีนแผ่นดินใหญ่ได้ดีดังเดิม โดยเหตุการณ์นี้จะถือเป็นอีกหนึ่งบทเรียนที่สำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตอาหารของทั้งไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ที่จะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหารให้มากขึ้นด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์เซี่ยเหมินรื่อเป้า ประจำวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ .2011
มณฑลเจียงซี
ปีนี้เจียงซีแล้งหนัก ประมงเสียหายกว่า 1,300 ล้าน
ปีนี้พื้นที่หลายมณฑลตอนในของจีนประสบกับภาวะแห้งแล้งอย่างหนัก เนื่องจากฝนที่ตกน้อยกว่าปกติทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติต่างๆ ลดลงมาก สำหรับมณฑลเจียงซี ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนในของจีน จึงได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
ล่าสุดสำนักงานการประมงของมณฑลได้เปิดเผยถึงข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีนี้ ภาวะภัยแล้งได้ทำให้ผลผลิตจากการประมงเสียหายไปแล้วกว่า 100,000 ตัน เฉพาะแค่ช่วงเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวมีผลผลิตเสียหายไปถึงกว่า 60,000 ตัน คิดเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจรวมมูลค่ากว่า 1,300 ล้านหยวน
ที่เลวร้ายไปกว่านั้น คือ เมื่อแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์และพืชน้ำได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้จำนวนของพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ลดลง ส่งผลต่อเนื่องถึงผลผลิตในรุ่นลูกที่จะลดลงอย่างมาก ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ลดลงมากก็เนื่องจากการผันน้ำในแหล่งการประมงไปให้กับภาคเกษตรกรรม ทำให้ผลผลิตจากภาคการประมงได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
อีกทั้งปัญหาภัยแล้งครั้งนี้ ยังส่งผลให้ราคาผลผลิตสัตว์น้ำและพืชน้ำ รวมทั้งราคาอาหาร ปรับตัวสูงขึ้นอีก จากเดิมที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในวิกฤตของมณฑลเจียงซีครั้งนี้ กลับจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ส่งออกผลผลิตการเกษตรชาวไทย ที่อาจจะได้รับผลดีจากการที่จะมีคำสั่งซื้อจากจีนเข้ามามากขึ้นก็เป็นได้
ที่มา: www.jxnews.com.cn ประจำวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ .2011
ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวรายมณฑลของจีนทุกวันได้ที่ www.thaibizchina.com และขอรับ e-news letter ฟรีที่ [email protected]
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)