ซอกแซกสำรวจเศรษฐกิจแห่งแดนมังกร

จาก สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
(http://www.thaibizchina.com/ หรืออีเมล์ [email protected])

ภาพจาก www.google.com

     เริ่มเข้าหน้าฝน หลายคนอาจต้องเผชิญกับปัญหาฝนตก รถติด และน้ำท่วม จนทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนต้องใช้เวลาในการเดินทางไปทำงานและกลับบ้านที่ยาวนาน ซึ่งทำให้หลายท่านอาจพลาดโอกาสในการติดตามข่าวสารกันไปบ้าง อย่างไรก็ตาม สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ก็ไม่ลืมที่จะนำข่าวสารดีๆ ที่น่าสนใจรอบมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซีมาฝากกันเป็นประจำเช่นเคย

     มลฑลฝูเจี้ยน
     บริษัทผลิตรถบัสพลังงานสะอาดเซี่ยเหมินเฟิงไท้ภูมิใจ...เปิดตัวแล้วอย่างยิ่งใหญ่
     เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 บริษัท Xiamen Fengtai Bus & Coach International Co, Ltd. บริษัทผู้ผลิตรถบัสเพื่อการส่งออกที่เน้นการใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่างจีนและออสเตรเลียและมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 400 ล้านหยวน ได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกบนเขตไห่ชางของเมืองเซี่ยเหมิน โดยบริษัทเซี่ยเหมินเฟิงไท้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ตัวโรงงานผลิตมีขนาดพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร บริษัทดังกล่าวดำเนินกิจการเกี่ยวกับการผลิตรถโดยสารขนาดใหญ่เพื่อส่งงอกไปยังประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งรถยนต์ที่ผลิตนั้นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในด้านการใช้พลังานสะอาดไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย หรูหรา และได้มาตรฐานระดับสากล มีทั้งรถที่ใช้พลังงานในระบบไฮบริดและรถที่ใช้ระบบพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว

     ขณะที่ นายอู๋ เลี่ยงไท้ ประธานกรรมการบริหารของบริษัทซึ่งมีมารดาเป็นคนไทย ได้ให้ข้อมูลว่าในอดีตทางบริษัทฯได้เคยมีการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนำเข้าส่งออกในประเทศไทย แต่หลังจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 จึงได้ถอนทุนกลับมาลงทุนที่เมืองจีน อย่างไรก็ดี นายอู๋ ก็ยังคงมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติมไปยังประเทศไทย เนื่องจากเล็งเห็นถึงความมีศักยภาพของแรงงานและการที่ไทยถือเป็นศูนย์กลางของอาเซียน รวมถึงยังสนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ Chinese Business Leader ของทาง สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ซึ่งจะเป็นการพาคณะนักธุรกิจชั้นนำของจีนเดินทางไปดูงานที่ประเทศไทยในเดือนกรกฎาคม 2554 อีกด้วย

     เซี่ยเหมินผงาดก้าวขึ้นติดอันดับ 22 ใน 100 เมืองที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงสุดในจีน
     The Chinese Academy of Social Science ได้ระบุถึงผลการจัดอันดับเมืองในประเทศจีนที่มีศักยภาพในด้านการแข่งขันโดยรวมสูงสุด ซึ่งปรากฎว่า เมืองเซี่ยเหมินและนครฝูโจวของมณฑลฝูเจี้ยนได้รับการจัดให้อยู่ใน 50 อันดับแรก โดยอยู่ในอันดับที่ 22 และ 36 ตามลำดับ ในส่วนเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 10 อันดับแรก ได้แก่ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น ไทเป กว่างโจว เทียนจิน ต้าเหลียน ฉางชา หังโจว สำหรับมณฑลฝูเจี้ยนมีเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 100 อันดับแรก ได้แก่ เซี่ยเหมิน (อันดับที่ 22) ฝูโจว (อันดับที่ 36) เฉวียนโจว (อันดับที่ 54) หลงเหยียน (อันดับที่ 82) จางโจว (อันดับที่ 85) และผู่เถียน (อันดับที่ 91)

     สำหรับผลการจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันนี้ได้แยกตามรายละเอียดของเมืองเซี่ยเหมิน ได้แก่ ด้านทรัพยากรมนุษย์อยู่ในลำดับที่ 8 ด้านระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอยู่ในลำดับที่ 3 ด้านวัฒนธรรมทางธุรกิจอยู่ในลำดับที่ 8 ด้านความสามารถในการปกครองอยู่ในลำดับที่ 6 และด้านการจัดการการลงทุนอยู่ในลำดับที่ 4

     จากการจัดอันดับเมืองในประเทศจีนที่มีศักยภาพในด้านการแข่งขันโดยรวมสูงสุดครั้งนี้ ไม่น่าแปลกใจที่ 2 เมืองใหญ่ของมณฑลฝูเจี้ยนอย่างเซี่ยเหมินและฝูโจวจะได้รับการจัดให้อยู่ใน 50 อันดับแรกของเมืองที่มีศักยภาพโดยรวมสูงสุดในจีน เนื่องจากได้รับการสนับสนุนการพัฒนามาเป็นเวลานานแล้ว แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ 6 ใน 9 เมืองของมณฑลฝูเจี้ยนสามารถติดอยู่ใน 100 อันดับแรกได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของนโยบายส่งเสริมการพัฒนาให้ทั่วถึงทั้งมณฑล อีกทั้งมณฑลฝูเจี้ยนยังถือเป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจชายฝั่งตะวันตกของช่องแคบไต้หวัน (ห่ายซี) ก็ได้ส่งผลให้เขตพัฒนาเศรษฐกิจได้ขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วมณฑลได้
     ที่มา: www.whatsonxiamen.com ประจำวันที่ 10 พฤษภาคม 2554

      โครงการรถไฟความเร็วสูงเซี่ยเหมิน คุนหมิงวิ่งฉิวถึง300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
     กระทรวงรถไฟกำลังวางแผนโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางเซี่ยเหมิน คุนหมิง ซึ่งจะสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยโครงการนี้จะถือเป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญที่จะมาช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่เขตเศรษฐกิจพิเศษเซี่ยเหมิน โดยรถไฟความเร็วสูงเส้นทางฝูโจว เซี่ยเหมินถือเป็นเส้นทางที่มีผลการดำเนินงานดีที่สุดในประเทศ เนื่องจากทำรายได้ได้มากที่สุด มีจำนวนรอบให้บริการสูงที่สุด และมีจำนวนผู้ใช้บริการมากที่สุด นอกเหนือจากเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงปัจจุบันในเส้นทางฝูโจว เซี่ยเหมิน, เซี่ยเหมิน เซินเจิ้น, เซี่ยเหมิน หลงเหยียนแล้ว ขณะนี้ กระทรวงรถไฟได้กำลังวางแผนโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางคุนหมิง เซี่ยเหมิน โดยเส้นทางจะเริ่มจากคุนหมิง ตอนใต้ของมณฑลกว่างซี ตอนใต้ของมณฑลหูหนาน มณฑลเจียงซี สิ้นสุดที่มณฑลเซี่ยเหมิน

     ขณะเดียวกัน โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางคุนหมิง - เซี่ยเหมินยังสามารถส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทยมายังจีน โดยปัจจุบันมีสินค้าไทยจำนวนมากที่ทำการส่งออกมายังจีนทางรถยนต์ผ่านภาคเหนือของไทยและประเทศลาวก่อนเข้ามาทางมณฑลยูนนานสู่นครคุนหมิงเนื่องจากใช้เวลาขนส่งน้อยกว่าการขนส่งทางทะเล ดังนั้น รถไฟความเร็วสูงคุนหมิง - เซี่ยเหมินจะสามารถช่วยนำสินค้าเหล่านี้สู่พื้นที่อื่นๆในจีนได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นการขยายตลาดได้อีกทาง นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังสามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟความเร็วสูงจีน - อาเซียนที่มีจุดเริ่มต้นที่นครคุนหมิงและมีเส้นทางผ่านมายังประเทศไทยได้อีกด้วย
นอกจากเส้นทางรถไฟแล้ว ในส่วนของท่าเรือนั้นก็ถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญที่สุดต่อเศรษฐกิจเซี่ยเหมินเช่นกัน โดยปัจจุบันท่าเรือเซี่ยเหมินถือเป็นท่าเรือที่มีปริมาณสินค้าผ่านเข้าออกมากเป็นลำดับที่ 19 ของโลก ขณะนี้มีท่าเรือขนาด 1 แสนตันให้บริการอยู่ทั้งหมด 4 ท่า และกำลังก่อสร้างอยู่อีก 4 5 ท่า เชื่อว่าหากท่าเรือดังกล่าวก่อสร้างเสร็จแล้วจะทำให้ท่าเรือเซี่ยเหมินกลายเป็นท่าเรือที่มีปริมาณสินค้าผ่านเข้าออกมากที่สุดติด 1 ใน 10 ของโลก ซี่งมีปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้ท่าเรือเซี่ยเหมินเติบโตคือปริมาณสินค้าที่ผ่านเข้าออกไม่ใช่จำนวนท่าเรือที่เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องพยายามดึงดูดสินค้าจากแหล่งภาคพื้นดินให้มาใช้บริการท่าเรืเซี่ยเหมินในการส่งออกให้มากที่สุด
      ที่มา: www.fj.xinhuanet.com ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2554

     มณฑลเจียงซี
     เจียงซีบุกฮ่องกงจัด Roadshow การลงทุน
     มณฑลเจียงซีมีกำหนดการจะไปจัดกิจกกรมประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักลงทุนที่ฮ่องกงประจำปี 2554 ในวันที่ 16 20 พฤษภาคม 2554 ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ได้เริ่มมีการจัดงานครั้งแรกในปี 2545 ทั้งนี้ มณฑลเจียงซีมีการจัดเตรียมโครงการจำนวน 895 โครงการเพื่อไปทำการประชาสัมพันธ์ คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 951.83 พันล้านหยวน ซึ่งจะเน้นความสำคัญไปที่โครงการพัฒนาภายในเขตเศรษฐกิจระบบนิเวศวิทยาทะเลสาบผอหยาง และโครงการส่งเสริมยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ ตลอดจนจะมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์เซรามิกและผลิตภัณฑ์จากพืชและสัตว์น้ำที่มีชื่อเสียงของมณฑล โดยงานจะถูกจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมและนิทรรศการของฮ่องกง
 

     ปัจจุบันฮ่องกงถือเป็นทุนจากนอกแผ่นดินใหญ่ที่มีสัดส่วนการลงทุนในมณฑลเจียงซีมากที่สุด คิดเป็นมูลค่าตามสัญญาโครงการกว่า 5.05 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ซึ่งเท่ากับร้อยละ 67.03 ของมูลค่าการลงทุนจากนอกแผ่นดินใหญ่ทั้งหมด โดยแบ่งเป็นการลงทุนในหลายด้าน ซึ่งที่สำคัญได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ฟ้าและอุปกรณ์ อุตสาหกรรมสิ่งทอ การบริการสมัยใหม่ การขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ และอสังหาริมทรัพย์

      ในส่วนของประเทศไทยหากสามารถจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการลงทุนลักษณะนี้ในประเทศจีนเพื่อดึงดูดนักลงทุนชาวจีน โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ๆที่มีกลุ่มนักธุรกิจรายได้สูง จะสามารถก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้มากกว่าการจัดงานในลักษณะของการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายเพียงอย่างเดียว โดยในปีนี้ได้มีการจัดงานสัมมนาเพื่อประชาสัมพันธ์การลงทุนในประเทศไทยมาแล้ว 2 ครั้งที่เมืองเซี่ยเหมิน และกำลังมีโครงการร่วมกับทาง BOI ที่จะไปจัดงานในลักษณะนี้อีกครั้งที่นครหนานชาง เมืองเอกของมณฑลเจียงซีในช่วงเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2554
     ที่มา: www.jxcn.cn ประจำวันที่ 12 พฤษภาคม 2554

     เจียงซีนำเข้าส่งออกเกิน 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในไตรมาสแรก ดันส่งออกสูงเป็นอันดับ 13 ของประเทศ
     รายงานตัวเลขมูลค่าการค้าระหว่างประเทศล่าสุดของมณฑลเจียงซีระบุว่าช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มณฑลเจียงซีมีการนำเข้าส่งออกคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 8.16 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าคิดเป็นร้อยละ 64.5 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศถึงร้อยละ 36 แบ่งเป็นการส่งออก 5.09 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 57.3) และการนำเข้า 3.07 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.2) โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงเป็นลำดับที่ 13 ของประเทศ

     ส่วนคู่ค้าต่างประเทศที่สำคัญในช่วง 4 เดือนแรกของปีนั้น อันดับหนึ่ง ได้แก่ ยุโรป มีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 1.69 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว 1.2 เท่า โดยแบ่งเป็นการส่งออก 1.36 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (เพิ่มขึ้น 1.7 เท่า) อันดับสองได้แก่ อาเซียน มีมูลค่าการค้าระหว่างกันอยู่ที่ 920 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 70.5 แซงหน้าสหรัฐอเมริกาซึ่งเดิมอยู่อันดับ 2 ได้เป็นครั้งแรก ส่วนคู่ค้าที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา (มูลค่าการส่งออก 710 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 69 เท่า) ฮ่องกง (มูลค่าการส่งออก 410 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 66 เท่า) และญี่ปุ่น (มูลค่าการส่งออก 380 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เท่า) โดยสำหรับสินค้าส่งออกที่สำคัญประกอบไปด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เสื้อผ้าและสิ่งทอ กระเป๋า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ โดย 4 เดือนที่ผ่านมา มณฑลเจียงซีมีการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ส่วนหนึ่งเป็นแผงโซล่าเซลล์มูลค่ารวมกว่า 640 ล้านหยวน ซึ่งทั้งหมดรวมเป็นมูลค่า 2.26  ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 1.3 เท่าจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (หรือร้อยละ 44.4 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ทั้งนี้ ข้อตกลงการค้าเสรีจีน - อาเซียนได้ส่งผลให้การค้าระหว่างมณฑลเจียงซีและอาเซียนเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแม้ว่าจีนมีความพยายามที่จะลดการพึ่งพาจากต่างชาติ โดยลดการส่งออกให้น้อยลงและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้นก็ตาม
     ที่มา: www.jxcn.cn ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2554

ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวรายมณฑลของจีนทุกวันได้ที่ www.thaibizchina.com และขอรับ e-news letter ฟรีที่ [email protected]