วันที่นำเข้าข้อมูล 13 มิ.ย. 2554
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565
รายงานการบรรยายสรุปโครงการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคระบบใหม่
จาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
(http://www.thaiceotokyo.jp/thai/ หรืออีเมล์ [email protected],
[email protected] )
รายงานการบรรยายสรุปโครงการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคระบบใหม่ มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ การแก้ไขและการปรับปรุงกฎหมายควบคุมการเข้าเมืองและผู้อพยพในส่วนของโครงการฝึกปฏิบัติงานเทคนิคที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2553 มีสาระสำคัญดังนี้
สาเหตุสำคัญของการปรับปรุงระบบการฝึกงานและฝึกปฏิบัติงานเทคนิค ได้แก่ 1) ญี่ปุ่นถูกวิจารณ์จากนานาชาติเรื่องการใช้แรงงานราคาถูก การฝ่าฝืนกฎหมายและการจ่ายค่าจ้างของบริษัทผู้รับผู้ฝึกงาน 2) เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้แก่ผู้ฝึกงาน ให้ได้รับการคุ้มครองภายใต้กฎหมายแรงงานตั้งแต่ปีแรกที่เริ่มฝึกงาน และ 3) เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมองค์กรผู้รับให้มีการจัดการที่ดี และการขจัดนายหน้าผิดกฎหมาย
สำหรับเนื้อหาสำคัญที่แก้ไขปรับปรุงได้แก่ 1) ประเภทวีซ่าจะเปลี่ยนจาก วีซ่า ผู้ฝึกงาน เป็นวีซ่า ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค 1 ระยะเวลาวีซ่า 1 ปี หลังจากเสร็จสิ้นการอบรมหลังเข้าประเทศญี่ปุ่นระยะไม่เกิน 2 เดือนแล้ว สัญญาจ้างงานจะเริ่มมีผลบังคับใช้ทันทีที่เริ่มฝึกงาน หมายถึง ผู้ฝึกงานจะได้รับการคุ้มครองและสิทธิตามกฎหมายแรงงานเช่นเดียวกับแรงงานญี่ปุ่น เมื่อฝึกงานใกล้ครบ 1 ปี จะต้องสอบวัดระดับฝีมือแรงงาน (พื้นฐานระดับ 2) ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการเปลี่ยนวีซ่าเป็น ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค 2 ระยะเวลาวีซ่า 1 ปี สามารถต่ออายุได้อีก 1 ปี รวมระยะเวลาการฝึกงานทั้งหมด 3 ปี
2) การห้ามเรียกเก็บเงินหรือหลักทรัพย์ค้ำประกันต่างๆจากผู้ปฏิบัติงานเทคนิค โดยจะเพิ่มการตรวจสอบในขั้นตอนของการยื่นวีซ่า กำหนดให้ต้องยื่นสัญญาที่องค์กรผู้ส่งทำกับผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค ซึ่งต้องระบุจำนวนและรายการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายด้วย
3) ตามระบบใหม่ ผู้ปฏิบัติงานเทคนิคต้องได้รับการอบรมภาคทฤษฎีไม่น้อยกว่า 2 เดือน ในกรณีที่องค์กรผู้ส่งจัดฝึกอบรมเตรียมตัวก่อนเดินทางมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน หลังจากเดินทางเข้าญี่ปุ่นแล้วองค์กรผู้รับจะต้องจัดอบรมภาคทฤษฎีเพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือนของระยะวีซ่าฝึกปฏิบัติงานเทคนิค 1 สำหรับเนื้อหาการฝึกอบรม
ได้แก่ ภาษาญี่ปุ่น ความรู้ทั่วไปในการดำรงชีพในประเทศญี่ปุ่น ความคุ้มครองที่ผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคจะได้รับตามกฎหมายญี่ปุ่น และ ข้อควรทราบเพื่อให้การฝึกปฏิบัติเทคนิค
4) แนวทางดำเนินตามระเบียบต่างๆขององค์กรผู้รับ มีความเข้มงวดเพิ่มขึ้น ได้แก่ ต้องไปเยี่ยมเยียน ตรวจสอบ และให้คำแนะนำแก่บริษัทอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และต้องรายงานผลให้กรมตรวจคนเข้าเมืองทราบอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง ต้องจัดให้มีระบบการให้คำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค องค์กรต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศของผู้ฝึกงานเทคนิค และ เพิ่มความพยายามในการย้ายบริษัทผู้รับให้แก่ผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคที่ประสบปัญหา เป็นต้น
5) เพิ่มบทลงโทษองค์กรผู้รับที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง จากเดิมที่ระงับการรับผุ้ฝึกงานนานสุด 3 ปี เป็น 5 ปี หากพบการกระทำผิดในกรณี เช่น องค์กรผู้รับ หรือเจ้าหน้าที่องค์กรผู้รับที่ถูกศาลตัดสินคดีละเมิดกฎหมายควบคุมการเข้าเมืองฯหรือกฎหมายแรงงาน ในระยะ 5 ปีนับตั้งแต่วันถูกตัดสิน หรือ องค์กรผู้รับที่มีเจ้าหน้าที่ที่ย้ายมากจากองค์กรผู้รับเดิมที่เคยถูกลงโทษให้ระงับการรับผู้ฝึกงานเนื่องจากมีการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ที่ยังไม่พ้นระยะถูกลงโทษ อีกทั้ง องค์กรหรือเจ้าหน้าที่ขององค์กรผู้ส่ง ที่ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา มีประวัติการปลอมแปลงเอกสารยื่นขอวีซ่าผู้ฝึกงาน ซึ่งการกระทำทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะไม่ได้รับการพิจารณาการออกวีซ่า
สำหรับ การเข้าประเทศของผู้ฝึกงานในช่วงเชื่อมต่อของการบังคับใช้กฎหมาย มีรายละเอียดต่างๆ ได้แก่
1) ผู้ฝึกงานที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นในระยะ 6 เดือนก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 จะได้รับวีซ่า ผู้ฝึกงาน ระยะเวลา วีซ่า 6 เดือน และหลังจาก 6 เดือนนี้จะได้รับการเปลี่ยนวีซ่าเป็น ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค 1 ระยะเวลาวีซ่า 6 เดือน เมื่อฝึกงานใกล้ครบ 1 ปี จะต้องสอบวัดระดับฝีมือแรงงาน (พื้นฐานระดับ 2) ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับการเปลี่ยนวีซ่าเป็น ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค 2 ระยะเวลาวีซ่า 1 ปีสามารถต่ออายุได้อีก 1 ปี รวมระยะเวลาการฝึกงานทั้งหมด 3 ปี
2) ผู้ฝึกงานที่องค์กรผู้รับยื่นขอวีซ่าหลังวันที่ 1 เมษายน 2553 จะได้รับวีซ่า ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค 1 ระยะเวลา วีซ่า 1 ปี จะต้องเดินทางเข้าญี่ปุ่นหลังวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ภายใต้เงื่อนไขรูปแบบการฝึกงานตามกฎหมายที่บังคับใช่ใหม่
ทั้งนี้ แผนภูมิเปรียบเทียบระบบเดิมและการฝึกงานระบบใหม่ และเปรียบเทียบจุดเวลาที่เข้าประเทศและประเภทวีซ่า ปรากฎตามเอกสารแนบ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)