โอกาสขยายตลาดผลไม้ไทยในจีนยังเปิดกว้าง

โอกาสขยายตลาดผลไม้ไทยในจีนยังเปิดกว้าง

วันที่นำเข้าข้อมูล 19 พ.ย. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 8,491 view

โอกาสขยายตลาดผลไม้ไทยในจีนยังเปิดกว้าง


สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกวางโจว
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือ [email protected]

 

 

            สาธารณรัฐประชาชนจีนถือเป็นตลาดส่งออกผลไม้ขนาดใหญ่ของไทย โดยผลไม้กว่าร้อยละ ๗๕-๘๐ จะถูกส่งเข้าจีนผ่านด่านในมณฑลกวางตุ้งรวม ๒ ด่าน คือด่านเหวินจิ่นตู้ที่เมืองเซินเจิ้น และด่านหลานสือที่เมืองฝอซาน เพื่อขนส่งต่อไปยังตลาดเจียงหนานในนครกวางโจว ก่อนกระจายสินค้าไปยังมณฑลต่างๆ ของจีน

           ปัจจุบัน กลุ่มลูกค้าหลักในการบริโภคผลไม้ไทยได้แก่ผู้บริโภคในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งมีรายได้และกำลังซื้อมากขึ้น โดยผลไม้ไทยยังคงมีคุณภาพและรสชาติเหนือกว่าผลไม้จีน ผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงในจีน ได้แก่ ลำไย ทุเรียน และมังคุด ส่วนส้มโอและมะขามหวานกำลังอยู่ในช่วงเริ่มเข้าไปตีตลาดในจีน

           ปัญหาและข้อจำกัดในการส่งออกผลไม้ไทยไปยังจีนที่ผู้ส่งออกของไทยประสบ ส่วนใหญ่เกิดจากมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากรขาเข้า ได้แก่ การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ ๑๓ ของรัฐบาลจีน การไม่มีความชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงราคาประเมินที่หน้าด่านศุลกากร รวมถึงการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ซ้ำซ้อน เช่น หากต้องการจำหน่ายผลไม้ที่ตลาดเจียงหนาน ก็ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ ๑๓ ทำให้ต้นทุนสูงและเสียเปรียบผลไม้ชนิดเดียวกันของจีน นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยจากแมลงและสารตกค้างที่ทางการจีนกำหนด โดยระเบียบการนำเข้าและส่งออกผลไม้ของกระทรวงพาณิชย์จีน มีลักษณะเอื้อต่อการผูกขาดโดยกลุ่มพ่อค้าคนกลางชาวจีนรายใหญ่เท่านั้น

           จากข้อจำกัดในเรื่องพ่อค้าคนกลางชาวจีนที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น การรวมกลุ่มของสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย อาจช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรองกับทางพ่อค้าคนกลางชาวจีนได้มากขึ้น และอาจสามารถเจรจาติดต่อกับผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ของจีนได้โดยตรง เพื่อสามารถวางขายผลไม้ไทยหรือผลไม้แปรรูปตามห้างสรรพสินค้าได้ด้วย

           ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตลาดผลไม้ไทยระดับ premium grade ทุกประเภทไปยังตลาดจีนที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งนอกเหนือจากตลาดในมณฑลกวางตุ้งแล้ว ยังรวมถึงกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้  โดยจะต้องมีการวิจัยตลาดควบคู่กับการเตรียมการด้านกลยุทธ์การตลาดอย่างรัดกุม ให้ความสำคัญกับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยหากผู้ประกอบการไทยต้องการจะบุกตลาดจีนอย่างจริงจัง ก็ควรเลือกพ่อค้าคนกลางชาวจีนที่น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ รวมถึงการพยายามทำความเข้าใจกฎระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานของจีน รวมไปถึงการมีความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนให้มากขึ้น