ชาอู่หลง-สปาไทย เริ่มตีตลาดระดับโลก

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือ [email protected]

           ปัจจุบัน ชาอูหลง และธุรกิจสปาของไทย กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในตลาดโลก โดยในปี ๒๕๕๕ ที่ผ่านมาไทยก็ได้มีโอกาสนำเสนอชาอูหลง และธุรกิจสปาไทยในงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่ ๒ งานในฮ่องกง คือ งาน Hong Kong International Tea Fair และงาน Natural Products Expo Asia

          บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัด เป็นหัวหอกใหญ่ของไทยในการนำชาอูหลงที่ผลิตจากไทยไปจัดแสดงในงาน Hong Kong International Tea Fair ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าประเภทใบชาโดยเฉพาะ มีผู้ร่วมจัดแสดงสินค้ากว่า ๓๐๐ ราย จาก ๑๒ ประเทศ และมีผู้เข้าร่วมหลากหลายกว่าการจัดงานในที่อื่น ๆ เนื่องจากฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการค้าและการขนส่งในภูมิภาค ทำให้มีความเป็นนานาชาติสูง ทั้งนี้ ปัจจุบัน  แสดงให้เห็นว่าชาอูหลงจากประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดจีนโดยเฉพาะในไต้หวันนั้นสามารถส่งออกไปยังไต้หวันและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในไต้หวันค่อนข้างมากเพราะชาอูหลงของไทยมีรสชาติใกล้เคียงกับชาอูหลงที่ปลูกในไต้หวันแต่มีราคาถูกกว่าเนื่องจากเนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกชาอูหลงของไทยนั้นอยู่บริเวณภาคเหนือซึ่งมีสภาพอากาศเย็นและดินมีความชุ่มชื้นสูงอีกทั้งไทยยังได้เปรียบในเรื่องราคาจากจากค่าแรงที่ต่ำกว่า ธุรกิจส่งออกใบชาอูหลงจึงมีศักยภาพในการเติบโตและสมควรได้รับการส่งเสริมต่อไปในอนาคต

          บริษัท บุญรอดฯ ได้ให้เทคนิคการบุกตลาดชาในจีนว่า ผู้ประกอบการส่งออกใบชาควรศึกษาและทำความรู้จักสินค้าของตนอย่างละเอียด เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือแก่สินค้าและตัวองค์กรก่อน เพราะทั้งนี้ การส่งออกใบชาไปยังไต้หวันเป็นการส่งออกในรูปแบบรับจ้างผลิต โดยซึ่งจะมีนายหน้าจากไต้หวันมารับซื้อถึงไร่ การสร้างแบรนด์ (branding) ให้กับใบชาของไทยจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจสปาและผลิตภัณฑ์สปาไทยในจีนนั้นที่นอกจากนี้ กำลังได้รับความนิยมอย่างมากเช่นกันในช่วง

          ๓ - ๔ ปีที่ผ่านมา นั้น ธุรกิจสปาและผลิตภัณฑ์สปาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ บริษัท บ้านไอดิน จำกัด เป็นซึ่งหนึ่งในบริษัทไทยที่ได้มามาร่วมจัดแสดงในงาน Natural Products Expo Asia ซึ่งเป็นงานจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ทั้งนี้ ได้เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์สปาของไทยมีข้อได้เปรียบค่อนข้างมากอยู่แล้ว ทั้งในแง่ตัวสินค้าและระดับความรู้จักในตลาดโลก ไทยมีสมุนไพรหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ อีกทั้งบริการด้านสปาไทยและนวดแผนไทยยังเป็นที่รู้จักของบรรดานักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการไทยจึงมีต้นทุนที่ดีในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ แต่สิ่งสำคัญของผู้ประกอบการไทยคือ ที่สำคัญ การพัฒนาผลิตภัณฑ์สปาของไทยสินค้าที่มีเอกลักษณ์ มีศักยภาพ และตรงกับความต้องการของลูกค้า กล่าวคือ มีความเป็นสากลโดยไม่ทิ้งความเป็นไทยยังมี “ความเป็นสากล” โดยไม่ทิ้ง “ความเป็นไทย” ดังเช่น ลูกประคบของบริษัท บ้านไอดินฯ ที่มีกรรมวิธีการใช้ที่ง่าย  โดยเพียงแค่การนำเข้าอุ่นในไมโครเวฟ ทั้งนี้ สปาไทยได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดฮ่องกง เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่มีความเครียดจากการทำงาน มีเวลาว่างน้อย และนิยมสินค้า “เพื่อสุขภาพ”

          การผลักดันสินค้าไทยให้ “โกอินเตอร์” เป็นต้น หลังจากพัฒนาสินค้าที่มีศักยภาพได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การหาตลาดต่างประเทศเพื่อกระจายสินค้า และเลือกสินค้าที่จะโปรโมทเป็นพิเศษหรือสินค้าเด่นของบริษัท เพื่อให้ง่ายต่อการทำตลาดและประชาสัมพันธ์ และเป็นการลดต้นทุนการผลิตของบริษัท เช่นเดียวกับชาไทย การสร้างแบรนด์ให้สินค้าไทยมีความสำคัญต่อการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศจึงมิใช่เพียงแค่การควานหาแหล่งตลาดที่มีศักยภาพเท่านั้น หากแต่ยังต้องคำนึงถึงการสร้างแบรนด์ และการสร้างเอกลักษณ์และความโดดเด่นในผลิตภัณฑ์ของตนด้วย การส่งเสริมสินค้าที่กำลังเติบโตได้ดีในตลาดโลก ถือเป็นโอกาสทองในการดำเนินธุรกิจ อันจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน จึงจะทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมอย่างที่สุดนั่นเอง