ภาคส่งออกคอสตาริกาขยายตัวร้อยละ 8

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
(www.thaibizchile.org หรืออีเมล์ [email protected])

(ภาพจาก www.google.com)

               คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาคส่งออก เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสร้างรายได้สู่ประเทศ เช่นเดียวกับคอสตาริกา ซึ่งมีหน่วยงานส่งเสริมการส่งออกคอสตาริกา เป็นผู้ผลักดันและประมวลตัวเลขภาคการส่งออกของประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก จึงไม่พลาดเก็บตกข้อมูลการส่งออกของคอสตาริกา ซึ่งมีหน่วยงานส่งเสริมการส่งออกคอสตาริกาเป็นผู้รวบรวมมาฝากกัน

               โดยการส่งออกในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2554 การส่งออกของคอสตาริกามีมูลค่า 8,472 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขยายตัวร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว สินค้าเกษตรเป็นสินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวสูงที่สุด โดยเฉพาะกล้วย สับประรด และกาแฟ ขณะที่สินค้าส่งออกจากภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่มีการขยายตัวขึ้นในลำดับต้นๆ ได้แก่ สายเคเบิล ซึ่งขยายตัวร้อยละ 27 อุปกรณ์การแพทย์ขยายตัวร้อยละ 26.1 และยางรถยนต์ขยายตัวร้อยละ 12.6  โดยการส่งออกคอสตาริกาตลอด 10 เดือนแรกของปี 2554 ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่มสินค้าและยังได้กล่าวย้ำถึงนโยบายของคอสตาริกาในการกระชับความสัมพันธ์ ทางการค้ากับภูมิภาคเอเชียที่เติบโตในอัตราร้อยละ 12 ด้วยในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ปัจจุบัน สินค้าที่คอสตาริกาส่งออกมายังตลาดเอเชียเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่ ไม้ธรรมชาติ แผ่นวงจรพิมพ์(Printed circuit board) ปลา เครื่องรับโทรทัศน์-วิทยุ น้ำผลไม้ เป็นต้น อย่างไรก็ดี ตลาดสหรัฐอเมริกายังคงเป็นตลาดที่ส่งออกที่สำคัญที่สุดของคอสตาริกาซึ่งครองส่วนแบ่งทางตลาดถึงร้อยละ 43 ของสินค้าที่ส่งออกทั้งหมดของคอสตาริกา

                 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมทางการแพทย์ของคอสตาริกาขยายตัวถึงร้อยละ 375 โดยในส่วนของการส่งออกนั้น มูลค่าของการส่งออกภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวขยายตัวจาก 87.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2541 เป็น 1,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 2553 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 474 และมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 24 ของสินค้าส่งออกทั้งหมดของคอสตาริกา ที่ผ่านมา คอสตาริกาส่งออกอุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์ อาหาร และยาประมาณ 81 ประเภท สำหรับรักษาโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคกระดูก ฯลฯ ไปยัง 72 ประเทศทั่วโลกและทำให้ภาคอุตสาหกรรมการแพทย์กลายเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ซึ่งปัจจุบันภาคเศรษฐกิจดังกล่าวยังเป็นแหล่งจ้างงานประมาณ 11,500 อัตรา และทางการคอสตาริกาคาดการณ์ว่า ภายในสามปีข้างหน้าการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้ทำให้ความต้องการแรงงานเพิ่มเติมอีกกว่า 7,500 คน การพัฒนาบุคคลากร โดยเฉพาะวิศวกรและช่างเทคนิค เพื่อตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมดังกล่าวจึงกลายเป็นประเด็นที่มีความสำคัญเร่งด่วนในคอสตาริกา

              รัฐบาลคอสตาริกาให้ความสำคัญกับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่คอสตาริกามีความตกลงทางการค้าด้วยแล้ว อาทิ สิงคโปร์และเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังจะเริ่มเจรจา FTA กับคอสตาริกาในต้นปี 2555 ซึ่งเห็นว่าอาจส่งกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยไปจำหน่ายในคอสตาริกาและรวมถึงตลาดอื่นในภูมิภาคอเมริกากลางซึ่งมีกำลังการซื้อสูง อาทิ ปานามา จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานไทยต้องเร่งพิจารณามาตรการเพื่อรักษาและเพิ่มพูนความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดคอสตาริกาและอเมริกากลางไว้เพื่อให้สินค้าไทยได้รับผลกระทบน้อยมที่สุดจากความได้เปรียบในการเข้าสู่ตลาดคอสตาริกาของสินค้าจากประเทศคู่แข่งของไทยในเอเชีย

ที่มา: www.misfinanzasenlinea.com และ http://spanish.peopledaily.com.cn