ชิลีคลอดกฎหมายป้องผู้บริโภคเหยื่อบัตรเครดิต

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
(www.thaibizchile.org หรืออีเมล์ [email protected])

(ภาพจาก www.google.co.th)

        แม้ว่าบัตรเครดิตจะช่วยให้การดำเนินชีวิตและการใช้จ่ายของใครหลายคนสะดวกสบายมากขึ้น แต่หากใช้โดยไม่ยั้งคิดและไม่มีวินัยในตัวเองก็อาจสร้างปัญหาหนี้สินให้ปวดหัวได้ไม่รู้จบ  และในโลกยุคทุนนิยมอย่างในปัจจุบันที่คนเราบริโภคกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าประเทศไหนก็ย่อมมีปัญหาดังกล่าวทั้งนั้น อย่างล่าสุดประเทศชิลีเกิดปัญหาสินเชื่อบัตรเครดิตขึ้นหลายครั้งมีผู้เสียหายกว่าห้าแสนคน ทำให้รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่ต้นเหตุ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก จึงได้ส่งตรงข่าวคราวความคืบหน้าการออกกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมฝากความปรารถนาดีมายังผู้ประกอบการชาวไทยด้วย

        เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 รัฐสภาชิลีได้ผ่านร่างกฎหมายจัดตั้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงิน หรือ SERNAC Financiero ซึ่งจะสามารถเริ่มมีผลบังคับใช้ได้จริงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2555 เป็นต้นไป โดยร่างกฎหมายฉบับนี้ จะช่วยสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเพิ่มอำนาจให้สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ให้มีอำนาจคุ้มครองผู้บริโภคในธุรกิจการเงินเป็นการเฉพาะ และระบุถึงสิทธิต่างๆที่ผู้บริโภคควรจะได้รับจากการซื้อสินค้าหรือบริการด้านการเงิน

         ยิ่งไปกว่านั้น ตามร่างกฎหมายดังกล่าว สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงินยังมีอำนาจประทับตรารับรองในสัญญาทางการเงินของผู้ให้บริการที่ได้รับการตรวจสอบแล้วว่ายุติธรรมต่อผู้บริโภค โดยผู้ให้บริการจะเลือกรับตรารับรองจากสำนักงานหรือไม่ก็ได้ และหากเลือกรับการรับรองดังกล่าวแล้ว ผู้ให้บริการจำเป็นต้องจัดทำระบบการรับเรื่องร้องเรียนซึ่งต้องได้รับการตอบสนองภายในเวลาที่กำหนด มิฉะนั้น ผู้บริโภคจะมีสิทธินำข้อร้องเรียนดังกล่าวไปสู่การแก้ไขข้อพิพาทโดยการไกล่เกลี่ยหรืออนุญาโตตุลาการได้

         เนื่องจากระยะหลังมานี้ ประเทศชิลีเกิดปัญหาสินเชื่อเครดิตขึ้นบ่อยครั้ง ทั้งปัญหาความไม่ชัดเจนของสัญญาระหว่างบริษัทให้บริการบัตรเครดิตกับผู้บริโภค ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น หรือต้องชำระหนี้เกินกว่าจำนวนเงินที่กู้ยืมหลายเท่าตัว แม้ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อในระบบอย่างถูกต้องก็ตาม รวมทั้งไม่สามารถยกเลิกสัญญาทางการเงินได้โดยง่ายดังใจคิด ด้วยเหตุนี้เอง รัฐบาลชิลีจึงเร่งผลักดันการจัดตั้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านการเงิน เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภค โดยการควบคุมการให้สินเชื่อบัตรเครดิตของห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีกในชิลีให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก ได้ฝากความปรารถนาดีมายังผู้ประกอบการชาวไทยที่ประสงค์จะเข้ามาทำธุรกิจในชิลี โดยเฉพาะการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ถึงมือผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของชิลี ค่อนข้างเข้มงวดกับการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค โดยมีระบบรับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่เห็นว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากผู้ให้บริการหรือผู้ขาย และลงโทษผู้ให้บริการในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่าละเมิดสิทธิของผู้บริโภคจริง ดังนั้น รู้แบบนี้แล้ว ผู้ประกอบการชาวไทยไม่เพียงจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบในธุรกิจของตนเท่านั้น แต่ต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิของผู้บริโภคด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตอีกด้วย