เกาะติดเศรษฐกิจคอสตาริกา

เกาะติดเศรษฐกิจคอสตาริกา

วันที่นำเข้าข้อมูล 30 พ.ย. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 26 พ.ย. 2565

| 3,793 view

เกาะติดเศรษฐกิจคอสตาริกา


สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก
http://www.thaiembassychile.org


     แม้ว่า คอสตาริกา จะได้รับการจัดอันดับความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ ประจำปี 2555 (Doing Business 2012) ของธนาคารโลก ในอันดับที่ 121 จาก 183 ประเทศที่ธนาคารโลกทำการสำรวจ ซึ่งเป็นอันดับเดียวกันกับที่คอสตาริกาได้รับเมื่อปี 2554 อย่างไรก็ดี หากเปรียบเทียบกับประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางแล้ว คอสตาริกามีความสะดวกในการดำเนินธุรกิจเหนือกว่าฮอนดูรัส ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 128 โดยมี
ข้อได้เปรียบ คือ การให้บริการพลังงานไฟฟ้าที่ครอบคลุมพื้นที่อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า ความผันผวนของเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรปจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจคอสตาริกาที่พึ่งพาตลาดใหญ่สองแห่งทั้งในแง่ที่มาของเงินลงทุนภายในประเทศ ตลาดส่งออก และตลาดนักท่องเที่ยว ซึ่งล้วนเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของคอสตาริกาทั้งสิ้น ลองมาติดตามข้อมูลข่าวสารที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก นำมาฝาก เพื่อร่วมอัพเดทข้อมูลกัน 
 

ร้อยละ 95 ของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ในคอสตาริกามาจากพลังงานทดแทน


     ประธานาธิบดีเลารา ชินชียา แห่งคอสตาริการะบุว่า คอสตาริกาบรรลุเป้าหมายในการผลิตพลังงานไฟฟ้าร้อยละ 95 จากแหล่งพลังงานทดแทนแล้ว
     ระหว่างพิธีเปิดโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมแห่งใหม่ใกล้กับกรุงซันโฮเซ ประธานาธิบดีชีนชียาแถลงว่า รัฐบาลของตนสามารถบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าของประเทศได้ถึงร้อยละ 95 แล้ว โดยปัจจุบัน คอสตาริกาผลิตพลังงานไฟฟ้าร้อยละ 78 ด้วยพลังงานน้ำ ร้อยละ 12 ด้วยพลังงานความร้อนใต้พิภพ ร้อยละ 4 ด้วยพลังงานลม และร้อยละ 1 โดยใช้กากอ้อย และมีเพียงร้อยละ 5 ของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศเท่านั้นที่ยังคงใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นปัจจัยการผลิต

 

ที่มา http://noticias.terra.com : วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011

 

การก่อสร้างโรงแรมในคอสตาริกาเพิ่มขึ้น 3 เท่า

 

     ระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม 2554 การก่อสร้างโรงแรมในคอสตาริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 192 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 
     ในช่วงสิบเดือนแรกของปี 2554 มีการยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้างโรงแรมในคอสตาริการวมพื้นที่ 89,038 ตารางเมตร ขณะที่เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามีการขออนุญาตก่อสร้างในพื้นที่เพียง 30,259 ตารางเมตรเท่านั้น
     ผู้แทนหอการค้าการท่องเที่ยวแห่งคอสตาริการะบุว่า จำนวนการก่อสร้างห้องพักที่เพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่า คอสตาริกาได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความต้องการเข้ามาดำเนินธุรกิจของโรงแรมชื่อดังระดับโลกหลายแห่ง
     นอกจากนี้ ผู้แทนหอการค้าฯ ยังระบุด้วยว่าเมื่อปี 2553 คอสตาริกามีห้องพักจำนวน 43,715 ห้อง ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้จำนวน 2.1 ล้านคน  พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า ในปี 2554 การท่องเที่ยวของประเทศจะขยายตัวประมาณร้อยละ 3 - 5 ซึ่งเป็นอัตราใกล้เคียงกับอัตราคาดการณ์การเติบโตของภาคเศรษฐกิจดังกล่าวประจำปี 2555 เช่นกัน

 

ที่มา http://noticias.terra.com : วันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011


 
เศรษฐกิจคอสตาริกาเมื่อเดือนกันยายน 2554 ขยายตัวร้อยละ 4.13

 

     ธนาคารกลางคอสตาริการะบุว่า เมื่อเดือนกันยายน 2554 เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวร้อยละ 4.13 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2553 ซึ่งเป็นอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตราประมาณร้อยละ 4 ติดต่อกันเป็นเดือนที่สี่แล้ว
ภาคเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวอย่างสำคัญในช่วงเดือนกันยายน  2554 ได้แก่ ภาคบริการ โดยเฉพาะบริการ Call Center ซึ่งขยายตัวร้อยละ 16 ตามมาด้วยการขนส่ง คลังสินค้าและโทรคมนาคม 
     ขณะที่ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของคอสตาริกาขยายตัวร้อยละ 2.1 เช่นเดียวกับภาคก่อสร้างที่ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องที่ร้อยละ 4.81 อย่างไรก็ดี ภาคเกษตรกรรมของประเทศกลับอยู่ในภาวะถดถอย

 

ที่มา http://noticias.terra.com : วันที่ 12 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011


 

รายได้ที่แรงงานชาวเอลซัลวาดอร์ซึ่งอพยพไปทำงานในต่างประเทศส่งกลับบ้านตลอดสิบเดือนแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้น


     ธนาคารกลางเอลซัลวาดอร์ระบุว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงตุลาคม2554 รายได้ที่แรงงานชาวเอลซัลวาดอร์ซึ่งอพยพไปทำงานในต่างประเทศส่งกลับบ้านมีมูลค่าเท่ากับ 3,008.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าช่วงเดียวกันของปี 2553 รวม 166.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเท่ากับเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 
     หากพิจารณารายได้ดังกล่าวประจำเดือนตุลาคม 2554 เพียงเดือนเดียวพบว่า เอลซัลวาดอร์มีรายได้ประเภทดังกล่าวจำนวน 299.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าเดือนเดียวกันของปี 2553 จำนวน 29.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11
ธนาคารเอลซัลวาดอร์ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้เงินรายได้ดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาจากอัตราการว่างงานในสหรัฐอเมริกาที่ลดลงเหลือร้อยละ 9.1 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าอัตราการว่างงานของ แรงงานเชื้อสายลาตินอเมริกาในสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 11.4 ก็ตาม 
     ทั้งนี้ ธนาคารกลางเอลซัลวาดอร์คาดการณ์ว่า รายได้ที่แรงงานชาวเอลซัลวาดอร์ซึ่งอพยพไปทำงานในต่างประเทศส่งกลับบ้านตลอดทั้งปี 2554 จะมีมูลค่ามากกว่า 3,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสถิติเมื่อปี 2553

 

ที่มา www.terra.com : วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011


 
การผลิตน้ำตาลในเอลซัลวาดอร์จะเพิ่มขึ้นในฤดูกาลผลิต 2554 2555


     สมาคมผู้ผลิตน้ำตาลในเอลซัลวาดอร์คาดการณ์ว่า ในฤดูกาลผลิต 2554 - 2555 การผลิตน้ำตาลในเอลซัลวาดอร์จะเพิ่มขึ้นเป็น 625,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับฤดูกาลผลิตที่แล้ว
     ตัวแทนสมาคมฯ ระบุว่า ฝนที่ตกหนักในช่วงเดือนที่แล้วไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำตาลของเอลซัลวาดอร์มากนัก แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบสาธารณูปโภคของประเทศ อาจทำให้การขนส่งผลผลิตทางการเกษตรดังกล่าวล่าช้าไปบ้าง พร้อมกับเรียกร้องให้กระทรวงโยธาธิการเอลซัลวาดอร์เร่งซ่อมแซมถนนหนทางที่ได้รับความเสียหายโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคการผลิตดังกล่าว
     ทั้งนี้ ปัจจุบัน ร้อยละ 43 ของการผลิตน้ำตาลในเอลซัลวาดอร์มีไว้สำหรับการบริโภคในประเทศ ทั้งการบริโภคในครัวเรือนและใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในประเทศ ขณะที่ร้อยละ 9 ของผลผลิตน้ำตาลส่งออกไปจำหน่ายยังสหรัฐอเมริกาภายใต้ความตกลงสิทธิพิเศษทางการค้า ส่วนผลผลิตที่เหลืออีกร้อยละ 48 เอลซัลวาดอร์ส่งออกไปจำหน่ายในแคนาดา เม็กซิโก ภูมิภาคแคริบเบียน ทวีปอเมริกาใต้ ยุโรปและเอเชีย

 

ที่มา www.elmundo.com.sv : วันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 2011