ลาตินอเมริกาฟื้นมาตรการกีดกันทางการค้า

ลาตินอเมริกาฟื้นมาตรการกีดกันทางการค้า

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 พ.ย. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 3,020 view

ลาตินอเมริกาฟื้นมาตรการกีดกันทางการค้า


สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส
อีเมล์
[email protected] , [email protected]


 
ภาพจาก www.google.com


             สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส ส่งตรงบทวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจของสำนักข่าวรอยเตอร์ เกี่ยวกับแนวโน้มที่ประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้จะเพิ่มมาตรการกีดกันทางการค้า ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการแลกเปลี่ยนของเงินสกุลท้องถิ่นต่อดอลลาร์สหรัฐที่เพิ่มค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง

             โดยปัจจัยที่ผลักดันให้อัตราการแลกเปลี่ยนของเงินสกุลท้องถิ่นต่อดอลลาร์สหรัฐเพิ่มค่าขึ้นนั้น นอกจากจะมาจากวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐฯแล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญอื่นอีกซึ่งก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น และการที่นักลงทุนต่างชาติต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสหรัฐฯและยุโรป แล้วหันมาลงทุนในภูมิภาคลาตินอเมริกามากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้เงินตราต่างประเทศไหลเข้าประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง

             อัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้มีอำนาจในการซื้อและนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมและการจ้างงานภายในประเทศ รวมถึงการส่งออกของประเทศ แม้ว่า รัฐบาลจะพยายามแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรักษาระดับราคาและความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออก ตลอดจนเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ แต่ก็ไม่สามารถจะแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากจีนได้

             ล่าสุด ประธานาธิบดี Dilma Rousseff ของบราซิล เห็นว่ารัฐบาลมีความจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการกีดกันทางการค้ามากขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ผู้นำประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคลาตินอเมริกาหันมาใช้มาตรการดังกล่าวเช่นกัน เพื่อเป็นการปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศจากการแข่งขันที่ไม่ป็นธรรม โดยประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้านี้ ได้แก่ จีน สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และฝรั่งเศส


สำเนาข่าวตัดจากหนังสือพิมพ์ Buenos Aires Herald