ฮ่องกงยังมั่นใจในบทบาทการเป็นศูนย์กลางเงินหยวนระหว่างประเทศ

สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง
(http://www.thaibizchina.com อีเมล์ [email protected] )

            คณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission: NDRC) และรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ ร่วมกันประกาศแผนผลักดันนครเซี่ยงไฮ้สู่การเป็นศูนย์กลางเงินหยวนภายในประเทศ (onshore yuan market) ภายในเวลา 3 ปี รวมทั้งผลักดันให้นครเซี่ยงไฮ้กลายเป็นศูนย์กลางการเงินระดับโลกเช่นเดียวกับกรุงลอนดอนและนครนิวยอร์กภายในปี 2563

            เซี่ยงไฮ้ได้กำหนดเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณเงินหยวนที่หมุนเวียนในตลาดภายในประเทศจาก 400 ล้านล้านหยวนในปี 2553 เป็น 1,000 ล้านล้านหยวนในปี 2558 ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นเพียงการกระตุ้นการลงทุนและเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของรัฐบาลเท่านั้น

            ทางด้าน NDRC เผยว่า ต้องการให้ตลาดเซี่ยงไฮ้สามารถกำหนดช่วงระดับมูลค่าของเงินหยวนและอัตราดอกเบี้ยสากลของเงินหยวน ซึ่งท่าทีดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลจีนอาจจะมีบทบาทในการเข้ามาควบคุมราคาเงินหยวนแทนที่ตลาดระหว่างประเทศ นอกจากนี้ NDRC ยังต้องการให้วิสาหกิจต่างชาติจำหน่ายหุ้นในรูปเงินหยวนผ่านตลาดหลักทรัพย์จีนด้วย ซึ่งอาจจะเป็นการแข่งขันกับตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เนื่องจากฮ่องกงได้สนับสนุนให้วิสาหกิจเปิดจำหน่ายหุ้นในรูปเงินหยวนตั้งแต่เดือนกันยายน 2554 ในการนี้ NDRC (เซี่ยงไฮ้) ยืนยันว่าแผนพัฒนาศูนย์กลางเงินหยวนของเซี่ยงไฮ้จะเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเงินระหว่างเซี่ยงไฮ้กับฮ่องกง เนื่องจากทั้งสองพื้นที่ต่างมีความสำคัญกับจีน

            อย่างไรก็ดี นาย Joseph Tong Tang จาก Sun Hung Kai Financial ให้ความเห็นว่า ฮ่องกงได้เปรียบเซี่ยงไฮ้ในด้านการดึงดูดนักธุรกิจต่างชาติ เนื่องจากฮ่องกงมีระบบไหลเวียนเงินทุนอย่างเสรี มีระบบกฎหมายที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ และยังมีธนาคารและสถาบันการเงินระหว่างประเทศค่อนข้างมาก ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติจะไม่สามารถทำการซื้อขายได้อย่างเสรีในตลาดเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากระบบกฎหมายของจีนต่างจากระบบสากล ส่งผลให้เซี่ยงไฮ้มีแนวโน้มพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางเงินหยวนภายในประเทศมากกว่า


ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวรายมณฑลของจีนทุกวันได้ที่ www.thaibizchina.com และขอรับ e-news letter ฟรีที่ [email protected]