ส่องกล้องมองเศรษฐกิจกว่างซี

ส่องกล้องมองเศรษฐกิจกว่างซี

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 พ.ย. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 พ.ย. 2565

| 2,542 view

ส่องกล้องมองเศรษฐกิจกว่างซี


สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง


การค้าต่างประเทศกว่างซีสดใส ส่งออกกว่าครึ่งมุ่งสู่อาเซียน


     สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือนสิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา มียอดการส่งออก 2,283 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 67.7 ขณะที่ ยอดการค้ากับอาเซียน เพิ่มเป็น 1,006 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 1.19 เท่า โดยในจำนวนนี้ เป็นการส่งออกไปอาเซียน 725 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 56.8 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด โดยมีประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย เป็นคู่ค้ารายใหญ่ อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ 
     หากจะย้อนดูตัวเลขการค้าระหว่างเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2554 นี้ พบว่า เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงและอาเซียนมีมูลค่าการระหว่างกันทั้งสิ้น 5,894.42 ดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 64.8 โดยจำนวนนี้เป็นการค้าระหว่างกว่างซีกับเวียดนามคิดเป็นประมาณร้อยละ 80 ของการค้าระหว่างเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกับอาเซียนทั้งหมด 
     ปัจจุบันการคมนาคมระหว่างเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกับกลุ่มประเทศอาเซียนมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ทางอากาศ (9 เที่ยวบินสู่อาเซียน) ทางราง (นครหนานหนิง-กรุงฮานอย และกำลังสร้างสายที่ 2) ทางทะเล และ ทางถนน (กำลังสร้างทางหลวงพิเศษ 2 สายเชื่อมเวียดนาม และมีทางหลวง 10 สายจากจากทั้งหมด 24 สาย เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว)
     คาดว่า การบูรณาการระบบโครงข่ายคมนาคมระหว่างประเทศของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงกับอาเซียน จะยิ่งช่วยส่งเสริมและสนับสนุน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าระหว่าง 2 ฝ่ายให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน 

 

ท่านทราบไหมว่า ? ปัจจุบันมีเส้นทางบกที่ทำให้เราสามารถเดินทางไปนครหนานหนิง ได้อย่างสะดวกรวดเร็วและคล่องตัวที่สุด ได้แก่ เส้นทาง R9 เริ่มต้นจากนครหนานหนิง ระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก กรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 1,900* กว่ากิโลเมตร  และ เส้นทาง R 12 ซึ่งมีระยะทางสั้นที่สุด เริ่มต้นเส้นทางจากนครหนานหนิง - เมืองท่าแขก ประเทศลาว - ด่านนครพนม - กรุงเทพฯ รวมระยะทาง 1,700** กว่ากิโลเมตร 


** ลองอ่านข้อมูลเส้นทางกันเต็มๆ ได้ที่ http://www.thaibizchina.com/thaibizchina/th/articles/detail.php?IBLOCK_ID=70&SECTION_ID=532&ELEMENT_ID=5498

(ที่มา : www.gx.xinhuanet.com วันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2011)

 

* รายละเอียดเส้นทางเริ่มต้นจากนครหนานหนิง - ด่านโหย่วอี้กวาน อำเภอระดับเมืองผิงเสียง เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง จ.หลั่งเซิน (Lang Son) จ.บั๊กยาง (Bac Giang) จ.บั๊กนิงห์ (Bac Ninh) กรุงฮานอย - ถนนหมายเลข 1 จ.ฮานาม (Ha Nam) จ.นิงบิงห์ (Ninh Binh) จ.แทงหวา (Thanh Hoa) จ.เงอาน (Nghe An) จ.ฮาติง (Ha Tinh) จ. กวางบิงห์ (Guang Binh) - อ.ยอลิงห์ (Gio Linh) จ. กวางบิงห์ (Guang Binh) ถนนหมายเลข 9 อ.ดงฮา (Dong Ha) จ.กวางตริ (Guang Tri) อ.ลาวบาว (Lao Bao) ด่านลาวบาว ประเทศเวียดนาม ด่านแดนสะหวัน (Dansavanh) ด่านสะหวันนะเขต แขวงสะหวันนะเขต (Savannakhet) ประเทศลาว ด่านมุกดาหาร จ.ขอนแก่น กทม.


** รายละเอียดเส้นทางเริ่มต้นจากนครหนานหนิง ด่านโหย่วอี้กวาน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ด่านลางเซิ่น (Lang Son) กรุงฮานอย อ.วินห์ (Vinh) จ.เงอาน (Nghe An) ด่านจาลอ (Cha Lo) ประเทศเวียดนาม ด่านนาพาว (Na Phao) - เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด่านพรมแดน จ. นครพนม กรุงเทพฯ


งาน China ASEAN EXPO พร้อมยอดจองบูธในงานปีนี้ทะลุ 4900 บูธ


     สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง ส่งตรงสถานะความคืบหน้าล่าสุดการเตรียมงาน The 8th China-ASEAN Expo 2011 หรืองาน CAEXPO ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-26 ต.ค. 2554 เก็บตกจาก เว็บไซต์ www.gxnew.com.cn และสื่อต่างๆ มาฝากกัน ดังนี้ 
    งาน CAEXPO ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ รักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเนื้อหางานในปีนี้จะครอบคลุมวาระ ครบรอบ 20 ปีที่ประเทศจีนกับกลุ่มอาเซียนได้ลงนามเป็นประเทศคู่เจรจา ภายใต้สโลแกน 10+1>11
     ตั้งแต่เริ่มจัดงานจนถึงปัจจุบัน มียอดจองคูหาจัดแสดงสินค้าทั้งจากในและนอกประเทศจำนวนทั้งสิ้น 4,943 คูหา มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ร้อยละ 23.6 มีจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 2,300 ราย เพิ่มขึ้นจากงานในปีที่ผ่านมาร้อยละ 4.6 โดยเฉพาะผู้ประกอบการจากจีน เพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ
     โดยในปีนี้ กลุ่ม Taipei World Trade Center เตรียมนำคณะนักธุรกิจจากไต้หวันเข้าร่วมงานในปีนี้เป็น ครั้งแรก ขณะที่ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว พม่า ไทยและเวียดนามได้เหมาอาคารย่อยทั้งหลัง สำหรับจัด แสดงสินค้าของตนเอง ซึ่งจะมีผู้ประกอบการอาเซียนนำสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นมาเข้าร่วมงานกว่า 40 แบรนด์ นอกจากนี้จะมีผู้ประกอบการจากญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ แคนาดา ฟินแลนด์ เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ด้วย 
     ขณะที่ผู้ประกอบฝ่ายจัดซื้อจากกลุ่มอาเซียนแจ้งขอเข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมากว่าร้อยละ 20 โดยมีผู้ประกอบการกว่า 600 รายแสดงความประสงค์ขอเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่การค้าในงานครั้งนี้ นอกจาก กลุ่มอาเซียนแล้ว ยังมีผู้ประกอบการฝ่ายจัดซื้อจากประเทศอื่น เช่น อิตาลี ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สเปน อังกฤษและสวีเดน เป็นต้น ได้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ครั้งนี้ด้วย
      ผู้ประกอบการฝ่ายจัดซื้อของประเทศจีนเองก็มาจากหลากหลายพื้นที่ อาทิ นครเซี่ยงไฮ้ เมืองเซี่ย เหมิน มณฑลกวางตุ้ง มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลซานตง มณฑลอันฮุย เป็นต้น โดยในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการจากเมือง ชิงต่าวกว่า 20 รายแสดงความประสงค์ที่จะซื้อยางพาราจากกลุ่มอาเซียนในงานนี้ และผู้ประกอบการจากเซี่ย งไฮ้กว่า 50 รายสนใจจะซื้อสินค้าอุตสาหกรรมเบาและอาหารบรรจุหีบห่อจากกลุ่มอาเซียนด้วย

 

นอกจากนี้ งาน CAEXPO ยังแบ่งพื้นที่จัดแสดงเป็น 4 Pavilion คือ


1)  Pavilion of Commodity Trade   จัดแสดงสินค้าเพื่อเจรจาการค้า มีสินค้าจากจีนและอาเซียน รวมทั้งประเทศที่อยู่นอกกลุ่มมาร่วมแสดง
2) Pavilion of Cities of Charm จัดนิทรรศการถ่ายทอดภาพลักษณ์เมืองหรือจังหวัดของประเทศที่เข้าร่วมงานฯ Theme ปีนี้คือ Environmental Protection Cooperation สำหรับจังหวัดของไทยที่ได้รับเลือก คือ ขอนแก่น (ประเทศอื่นๆ ได้แก่ มณฑลไห่หนานของจีน / จังหวัดรัตนคีรีของกัมพูชา/ แขวงจำปาสักของลาว/กรุงเนปีดอของพม่า/ ฮอยอันของเวียดนาม/ ปาปัวตะวันตกองอินโดนีเซีย /รัฐยะโฮห์ของมาเลเซีย เป็นต้น)
3)  Pavilion of Investment Cooperation นำเสนอโครงการร่วมมือทางเศรษฐกิจและการลงทุนระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำเสนอในเรื่อง Investment Inviting& Overseas Investing, International Project Contracting, Human Resource Cooperation, Resource Exploring, Market Analysis เป็นต้น
4) Pavilion of Agricultural Advanced Applicable Technology จะเน้นการจัดแสดงเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ของจีนที่สามารถนำไปปรับใช้ในประเทศอาเซียน
     สำหรับสถานที่จัดงานกำหนดไว้ 3 แห่ง ได้แก่ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติหนานหนิง (Nanning International Conference and Exhibition Center) อาคารนิทรรศการกว่างซี (Guangxi Exhibition Hall) และศูนย์นิทรรศการระหว่างประเทศ China South City โดยงานปีนี้ยังได้จัดโซนสินค้าแบรนด์เนมจากกลุ่ม อาเซียนและโซนสินค้าประเภทวัตถุดิบเป็นการเฉพาะด้วย
     นอกจากงานมหกรรมแสดงสินค้าฯ แล้ว ยังจะมีการจัดประชุมสุดยอดธุรกิจการลงทุนจีน-อาเซียน (CABIS) การประชุมระหว่างประเทศในหัวข้อต่างๆ เช่น การประชุมว่าด้วยความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม การ ตรวจสอบคุณภาพ การเงิน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ยา ป่าไม้ กีฬา อุตสาหกรรมเชิงวัฒนธรรม สื่อสิ่งพิมพ์ ประชากรกับการพัฒนา เป็นต้น