ตามติดเศรษฐกิจแดนมังกร : มณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี

ตามติดเศรษฐกิจแดนมังกร : มณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 มิ.ย. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565

| 2,748 view

ตามติดเศรษฐกิจแดนมังกร : มณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี

จาก สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
(
http://www.thaibizchina.com/ หรืออีเมล์ [email protected])

 
ภาพจาก www.google.com


        สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน ได้ส่งตรงข้อมูลอัพเดตสถานการณ์เศรษฐกิจของมณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลเจียงซี มาฝากท่านผู้อ่าน ดังนี

        มณฑลฝูเจี้ยน
        ปิดฉากงาน Cross-Straits Fair ครั้งที่ 13 เซ็นสัญญารวม 308 โครงการ
        งานมหกรรมเพื่อความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างช่องแคบไต้หวัน ครั้งที่ 13 (Cross Straits Fair for Economy and Trade) ซึ่งจัดขึ้น ณ นครฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ได้ปิดฉากลงอย่างงดงามแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา งานนี้ได้รับความร่วมมือจากไต้หวันและอีกหลายประเทศเป็นอย่างดี มีการค้าขายคิดเป็นมูลค่า 48.31 ล้านหยวน และมีการเซ็นสัญญาโครงการความร่วมมือระหว่างกันมูลค่าถึง 185 ล้านหยวน รวม 308 โครงการ นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจัดพื้นที่แสดงสินค้าที่ได้รับการลดอากรขาเข้าในรอบแรก (Early Harvest) ตามข้อตกลง ECFA เป็นครั้งแรกอีกด้วย ในส่วนของประเทศไทยก็มีผู้ประกอบการร่วมออกร้านในงานดังกล่าวด้วย โดยมีสินค้าหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น อาหาร งานฝีมือ และเสื้อผ้า ซึ่งล้วนได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าชาวจีนเป็นอย่างดี

ที่มา: www.fj.xinhuanet.com ประจำวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ .2011

        ฝูเจี้ยนส่งออกผลิตภัณฑ์จากทะเลไปอาเซียนเพิ่มกว่าเท่าตัว
        รายงานตัวเลขการส่งออกของใน 4 เดือนแรกของปี 2554 ระบุว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์จากทะเลในช่วง 4 เดือนแรก มีปริมาณกว่า 195,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 79.1 คิดเป็นมูลค่ารวม 680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นการส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียนเป็นส่วนใหญ่ ท่านทราบไหมว่า ? มณฑลฝูเจี้ยนมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ มีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 3,300 กิโลเมตร ยาวเป็นอันดับสองของจีน จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์ทางทะเลอยู่มากมาย นอกจากนี้ ผลจากข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน จีน ยังส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์จากทะเลไปยังอาเซียนของฝูเจี้ยนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ ไทยในฐานประเทศสมาชิกอาเซียนก็สามารถใช้ประโยชน์ในการเลือกนำเข้าวัตถุดิบแล้วมาแปรรูปเพื่อการส่งออกต่อไปได้ ซึ่งอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารของไทยก็ถือว่า ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ที่มา: www.fj.xinhuanet.com ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 2011


        เมืองเซี่ยเหมิน
        โครงการอุโมงค์ลอดใต้ทะเลแห่งที่ 2 ของเมืองเซี่ยเหมิน
        เมืองเซี่ยเหมิน วางแผนจะเริ่มโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดใต้ทะเลเพื่อเชื่อมเกาะเซี่ยเหมินกับแผ่นดินใหญ่แห่งที่ 2 สิ้นปีนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2558 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 5.88 พันล้านหยวน โครงการก่อสร้างอุโมงค์ยาว 9.03 กิโลเมตรนี้ สร้างขึ้นเพื่อลดความแออัดของสะพานไห่ชางที่ออกแบบมาให้สามารถรองรับปริมาณรถยนต์เฉลี่ยที่ 60,000 คนต่อวัน แต่ปัจจุบันมีรถยนต์ใช้บริการถึงกว่า 100,000 คันต่อวัน และทำให้การขนส่งในเมืองมีความสะดวกสบายมากขึ้น อีกทั้งการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งนี้ ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการกระจายความเจริญให้เท่าเทียมกันระหว่างพื้นที่ส่วนที่อยู่บนเกาะกับส่วนที่อยู่นอกเกาะอีกด้วย

ที่มา: www.fj.xinhuanet.com ประจำวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ.2011


        มณฑลเจียงซี
        เจียงซีทุ่ม 5 หมื่นล้าน ขยายเครือข่ายอุตสาหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ
        สถาบันพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพของมณฑลเจียงซีเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมการผลิตอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารปลอดสารพิษ (Green Food and Organic Food) ซึ่งเป็น 1 ใน 10อุตสาหกรรมหลักของมณฑลเจียงซี ได้ขยายตัวให้ครอบคลุมมากขึ้นทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ โดยจะใช้เงินลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านหยวน เพื่อเป็นการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้อยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ โดยจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับผลผลิต 6 ชนิด ได้แก่ ส้ม ข้าวเจ้า ชาน้ำมัน พืชน้ำและสัตว์น้ำ ใบชา และ สัตว์ปีก จึงถือเป็นโอกาสดีสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพต่างๆของไทย ที่จะสามารถหาช่องทางในการขยายากิจการเข้ามายังตลาดจีนได้

ที่มา: www.fj.xinhuanet.com ประจำวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ.2011

        บริษัทเยอรมันร่วมทุนตั้งโรงงานแปรรูปแร่วุลแฟรมในเจียงซี
        กลุ่มบริษัทผู้ผลิตโลหะทนไฟและเซรามิกส์ขั้นสูงรายใหญ่จากเยอรมนี H.C.Starck ได้ตกลงใจร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทผลิตโลหะทนไฟหายากของมณฑลเจียงซี ก่อตั้งบริษัทแปรรูปและผลิตวัสดุต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้แร่วุลแฟรม 2 แห่ง ในเมืองก้านโจว ทางตอนใต้ของมณฑลเจียงซี ซึ่งโครงการดังกล่าวจะใช้เงินลงทุนรวม 80 ล้านยูโร หรือประมาณ 800 ล้านหยวน โดยมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปี 2555 และตั้งเป้าว่าจะสามารถให้ผลผลิตตากการแปรรูปวุลแฟรมปีละประมาณ 30,000 ตัน เพื่อนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในตลาดเอเชียเป็นหลัก ปัจจุบันเมืองก้านโจว ถือเป็นแหล่งผลิตแร่วุลแฟรมและแร่โลหะอื่นๆ ที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน จนได้รับการขนานนามว่า เมืองแห่งแร่วุลแฟรม ซึ่งการร่วมทุนกันครั้งนี้จะช่วยให้อุตสาหกรรมดังกล่าวของจีนก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น

ที่มา: www.fj.xinhuanet.com ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ.2011


ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวรายมณฑลของจีนทุกวันได้ที่ www.thaibizchina.com และขอรับ e-news letter ฟรีที่ [email protected]