เยี่ยมชมบริษัทหนานหนิงเจียไต๋ปศุสัตว์ของเครือซี.พี.

เยี่ยมชมบริษัทหนานหนิงเจียไต๋ปศุสัตว์ของเครือซี.พี.

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 มิ.ย. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565

| 2,000 view

                               เยี่ยมชมบริษัทหนานหนิงเจียไต๋ปศุสัตว์ของเครือซี.พี.ในนครหนานหนิง
                                                                                                          จากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิง
                                              (http://www.thaibizchina.com/ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] )

       สถานกงสุลใหญ่ ณ นครหนานหนิงได้รายงานผลการเยี่ยมชมกิจการของบริษัทหนานหนิงเจียไต๋ปศุสัตว์ จำกัด (Chia Tai Group Agro-Industry Business CHINA Area (Guangxi Area) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ของไทย โดยมีนายพิสิฐ ศานติพงศ์ Area President และนายสุรินทร์ เตรียมกิจสวัสดิ์ Financial Controller ร่วมให้ข้อมูลของบริษัท ฯ ซึ่งมีสาระที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ สำหรับผู้ประกอบการไทย ดังนี้

    1. บริษัทหนานหนิงเจียไต๋ปศุสัตว์ จำกัด ดำเนินธุรกิจการเกษตรในจีน มีโรงงานตั้งอยู่ใน4 เมืองของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ได้แก่ 1) นครหนานหนิง มีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ และฟาร์มพ่อ แม่พันธุ์ไก่และสุกร โดยบริษัทฯ เป็นผู้เพาะพันธุ์และจำหน่ายเนื้อไก่โตเร็วและสุกรรายใหญ่ที่สุดในเขต
ปกครองตนเองกว่างซีจ้วง 2) เมืองกุ้ยหลิน มีโรงงานอาหารสัตว์ 3) เมืองหลิ่วโจว มีโรงงานวัตถุดิบผลิตอาหารสัตว์ และ 4) เมืองเป๋ยไห่ มีโรงเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ เช่น ปลา และลูกกุ้ง โดยเน้นกุ้งขาวไดนาไมต์ ซึ่งนำพันธุ์มาจากสหรัฐอเมริกา และนำมาพัฒนาสายพันธุ์ที่ประเทศไทย ก่อนส่งไปยังมณฑลไห่หนานเพื่อกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆของจีน ไม่ว่าจะเป็นฝูเจี้ยน กวางตุ้ง และกว่างซี
 

      2. บริษัทฯ มีแผนที่จะดำเนินโครงการต่างๆ ที่สนใจ ดังนี้
      2.1)  ฟาร์มเพาะพันธุ์หมู งบประมาณการลงทุนประมาณ 80 ล้านหยวน
      2.2) โครงการผลิตอาหารแบบครบวงจร สอดคล้องตามแนวคิดของไทยในการเป็น ครัวของโลก
      2.3)  โครงการบริษัทค้ำประกัน เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรจีนยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ส่งผลให้เกิดปัญหาการขอสินเชื่อ ดังนั้น โครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาเงินทุนของเกษตรกรในกว่างซีทั้งระบบจ้างเลี้ยงและระบบราคาประกัน

        3. ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทซีพีลงทุนในจีน 3 ลักษณะ ได้แก่ 1) การลงทุนร้อยละ 100   2) การร่วมทุน และ 3) การร่วมมือ (บริษัทหนานหนิงเจียไต๋ปศุสัตว์ ฯ ลงทุนในลักษณะนี้) โดยรัฐบาลกว่างซีสนับสนุนด้านที่ดิน ส่วนบริษัท ฯ เป็นผู้บริหารทั้งหมด การถือหุ้นแบ่งเป็นฝ่ายไทยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 85 และจีนร้อยละ 15 ส่วนพนักงานจะเน้นจ้างคนงานท้องถิ่นเป็นหลัก

        4. นอกจากนี้ บริษัท ฯ ยังมีความร่วมมือกับเกษตรกรเป็นอย่างดี โดยใช้ระบบสัญญาจ้างการเลี้ยงหมูและไก่แบบ Contract Farming กล่าวคือ มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกันอย่างชัดเจน โดยเกษตรกรจะรับผิดชอบด้านโรงเรือนและแรงงาน ส่วนบริษัท ฯ จะรับผิดชอบด้านการลงทุน เทคนิคและการตลาด เช่น กรณีการเลี้ยงไก่ เกษตรกรจะสร้างโรงเรือนตามมาตรฐานของบริษัท ฯ และบริษัท ฯ จะเป็นผู้จัดหาลูกไก่และอาหารให้ รวมทั้งจะส่งนักวิชาการสัตวบาลไปบริการ ซึ่งผลผลิตที่ได้จะเป็นของบริษัท ฯ ขณะที่เกษตรกรจะได้รับผลตอบแทนตามที่ตกลงกันไว้ คือประมาณตัวละ1.5 หยวน ทั้งนี้ ภายในเวลาไม่เกิน
5 ปี เกษตรกรจะสามารถคืนเงินต้นทุนได้ทั้งหมด จึงไม่มีความเสี่ยง เช่นเดียวกับการเลี้ยงสุกรซึ่งก็ใช้ระบบดังกล่าวเช่นกัน ขณะนี้ ในกว่างซีมีเกษตรกรที่เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวประมาณ 500 กว่าราย โดยปี 2552 ให้ผลตอบแทนแก่เกษตรกรถึง 35 ล้านหยวน
 

        5. สำหรับการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างอาเซียน จีน ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจของกว่างซีเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณเขตเศรษฐกิจอ่าวเป่ยปู้ กว่างซี ทำให้ประชากรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อยอดการจำหน่ายสินค้าระหว่างกันที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังจะเห็นว่ามีสินค้าไทยเข้ามาจำหน่ายในกว่างซีมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ อย่างไรก็ดี แม้การเปิดเสรีทางการค้าจะส่งผลกระทบต่อผลไม้ของไทยบางชนิด ตัวอย่างเช่น ส้มจีนที่ทะลักเข้าไทยเป็นจำนวนมาก แต่ก็ถือเป็นกลไกทางการตลาดอย่างหนึ่ง ซึ่งเกษตรกรจำเป็นต้องเร่งปรับปรุงพันธุ์และลดต้นทุนเพื่อสร้างการแข่งขันในตลาดต่อไป

        6. โอกาสและช่องทางการค้า การลงทุนในหนานหนิง
        6.1 นครหนานหนิงมีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากสิ่งก่อสร้างภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้น GDP ของจีน อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะไม่นำไปสู่ปัญหาฟองสบู่แตก เนื่องจากจีนสามารถควบคุมได้ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้าง ราคา และดอกเบี้ยเงินกู้ รวมทั้งนโยบาย 3 เกษตร ได้แก่ 1)นโยบายแก้ไขปัญหาการเกษตร 3 ด้าน ได้แก่ ปัญหาภาคการเกษตร ปัญหาภาคชนบท และปัญหาของเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลจะให้เงินชดเชยแก่เกษตรกรในการย้ายไปเมืองขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่จัดเตรียมไว้ให้ โดยมีการสร้างสาธารณูปโภคและธุรกิจต่างๆ เพื่อรองรับ ก่อนที่จะให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เข้ามาพัฒนาพื้นที่ของเกษตรกร จึงได้ประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย กล่าวคือภาคธุรกิจได้พัฒนาที่ดินใหม่ ขณะที่เกษตรกรย้ายไปเมืองใหม่ซึ่งได้รับการพัฒนาแล้ว นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มจำนวนประชากรในเมืองของจีนและกระตุ้น GDP ของประเทศโดยรวม

       6.2 การทำการค้าและธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของไทยน่าจะมีศักยภาพในกว่างซี เนื่องจาก
กว่างซีมีวัตถุดิบหลากหลายชนิดที่ไทยต้องการ อาทิ แร่ธาตุอลูมิเนียม แมงกานีส รวมทั้งสินค้าเกษตรอื่นๆ ที่ไทยยังไม่มี นอกจากนี้ กว่างซียังถือเป็นเมือง หน้าด่าน ที่สำคัญในการเจาะตลาดจีนอีกด้วย โดยไทยอาจใช้ ประโยชน์จากความร่วมมือ 10 + 1 หรือ อาเซียน + จีน ซึ่งรัฐบาลหนานหนิงให้การสนับสนุน รวมทั้งใช้ประโยชน์จากเขตคลังสินค้าทัณฑ์บนก็จะเป็นผลดีกับธุรกิจไทยเป็นอย่างมาก

       6.3 นอกจากนี้ เส้นทางคมนาคมทางบกกรุงเทพฯ หนานหนิงทั้ง 3 เส้นทาง (R9 R12
และ R8) จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำธุรกิจการค้าและโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับหนานหนิงได้อีกทางหนึ่ง ปัจจุบันการส่งออกผลไม้ไทยได้ใช้เส้นทางบก R9 ผ่านจังหวัดมุกดาหาร เข้าที่อำเภอผิงเสียง เมืองฉงจั่ว เขตกว่างซี อย่างไรก็ดี แม้ว่าปริมาณสินค้าจะยังไม่สูงมากนัก แต่นับได้ว่าเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางแห่งอนาคตอันใกล้ต่อไป