รมต.คลังนิวเซาท์เวลล์บรรยายสรุปเศรษฐกิจภายในรัฐ

รมต.คลังนิวเซาท์เวลล์บรรยายสรุปเศรษฐกิจภายในรัฐ

วันที่นำเข้าข้อมูล 3 ธ.ค. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 4,882 view

รมต.คลังนิวเซาท์เวลล์บรรยายสรุปเศรษฐกิจภายในรัฐ


สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือ [email protected]

 

            กระทรวงการต่างประเทศได้รับรายงานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ซึ่งได้บรรยายสรุปเรื่อง Infrastructure Planning, Economic Growth and Business Opportunities in NSW โดยนาย Michael Baird รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเห็นทิศทางแนวโน้มการพัฒนาของรัฐนิวเซาท์เวลส์  ที่จะเป็นโอกาสของนักธุรกิจที่สนใจในการร่วมทุนหรือลงทุนในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวอย่างมาก

           ในช่วงเวลาที่รัฐนิวเซาท์เวลส์อยู่ภายใต้การบริหารของพรรค Labor ต่อเนื่องมาเป็นเวลา ๑๖ ปีนั้น รัฐนิวเซาท์เวลส์มีการเติบโตทางเศรษฐกิจเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของการเติบโตเฉลี่ยของทั้งประเทศ ซึ่งนาย Michael Baird เรียกว่าเป็นยุค The Lost Decade เนื่องด้วยมีอัตราการว่างงานสูง เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะผันผวน ประชาชนมีความมั่นใจทางเศรษฐกิจต่ำ และมีการอดออมมากขึ้นในขณะที่มีการใช้จ่ายน้อยลง ทำให้รัฐได้งบประมาณจากภาษีสินค้าและบริการลดลงกว่าปีละ ๒.๕ พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

           เมื่อรัฐบาลกลุ่ม Coalition (พรรค Liberal ร่วมกับพรรค National) เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๔ ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว และเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงระบบโครงสร้างเศรษฐกิจของรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดรายจ่ายและการเพิ่มรายได้ และการรักษาอันดับ Credit Rating ในระดับ AAA ส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการบางประการ เช่น การลดจำนวนพนักงานราชการและจำกัดเพดานการขึ้นเงินเดือน การให้เอกชนเช่าท่าเรือสำคัญ ๒ แห่ง คือ Port Botany ที่ซิดนีย์และ Port Kembla ที่เมือง Wollongong และการขยายกิจการโรงผลิตไฟฟ้าของรัฐ เป็นต้น

           ในส่วนของนโยบายระยะยาว ได้แก่ นโยบายการกระตุ้นอุตสาหกรรมก่อสร้าง เช่นการยกเว้นภาษีให้สำหรับการซื้อบ้านหลังใหม่ มีการวางแผนการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น การทำถนนโครงการ WestConnex การสร้างทางเชื่อมทางด่วนสำคัญ การเพิ่มความเร็วของรถไฟที่ให้บริการจากเมือง New Castle ไปยังนครซิดนีย์ เป็นต้น โดยการเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก ๑๐ ปีข้างหน้า คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า ๓๐ พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยในระยะ ๑๒ เดือนแรกนี้จะเป็นช่วงของการออกแบบและประมูลโครงการ โดยรัฐบาลจะดำเนินการภายใต้แนวคิด Public-Private Partnership (PPP) เพื่อลดปัญหาการขาดทุนของภาคเอกชนที่ลงทุนในโครงการของรัฐ

           สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า รัฐนิวเซาท์เวลส์ มีจุดแข็งคือเป็นรัฐที่ประกอบไปด้วยภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่และภาคบริการ ส่งผลให้การชะลอตัวของภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่ในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมเท่าใดนัก ในส่วนของแผน Infrastructure NSW นั้น สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์เห็นว่ายังคงต้องมีการเจรจาระหว่างกลุ่มทางการเมือง เพราะที่ผ่านมายังคงมีความเห็นที่แตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนไทยสนใจที่จะร่วมประมูลโครงการต่างๆของนครซิดนีย์ สามารถติดตามข้อมูลเบื้องต้นได้ที่เว็บไซต์ของ NSW Trade and Investment ได้ที่ (www.trade.nsw.gov.au) โดยสถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ยินดีจะเป็นผู้ประสานข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆให้ต่อไป