ตลาดยางพาราจีน

ตลาดยางพาราจีน

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 มี.ค. 2556

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 19,483 view

ตลาดยางพาราจีน


สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือ [email protected]

 

 

           ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนทั้งในด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยการค้าระหว่างไทยกับจีนได้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยางพาราของไทยที่ส่งออกไปยังจีน เนื่องจากประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการผลิตยางรถยนต์มากที่สุดในโลก ทำให้มีความจำเป็นในการใช้ยางพาราเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางรถยนต์ในปริมาณที่สูงมากที่สุดในโลกเช่นกัน สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว ได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับตลาดยางพาราจีน ดังนี้

           อุตสาหกรรมยางรถยนต์ในจีนเป็นอุตสาหกรรมที่มีการกระจุกตัวสูง ผู้ผลิตรายใหญ่ ๑๐ รายแรก มีผลผลิตรวมกันถึงร้อยละ ๗๗ ของผลผลิตยางรถยนต์ทั้งหมด ปัจจุบันจีนอาศัยการนำเข้ายางพาราจากต่างประเทศในการผลิตยางรถยนต์ โดยร้อยละ ๗๐ ของยางรถยนต์จีนผลิตจากยางพาราต่างประเทศ ในขณะเดียวกันการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมรถยนต์ ทำให้จีนต้องเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกยางพาราภายในประเทศ ตลอดจนเพิ่มการลงทุนธุรกิจยางพาราในต่างประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ทั้งนี้ผลผลิตจากยางพาราในประเทศในปี ๒๕๕๔ มีเพียง ๐.๗๘ ล้านตัน ในขณะที่จีนมีความต้องการใช้ยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางพาราสูงถึงเกือบ ๔.๘ ล้านตัน ทั้งนี้ แหล่งเพาะปลูกยางพาราที่สำคัญของจีนอยู่ที่มณฑลไห่หนาน และยูนนาน

           ไทยมีส่วนแบ่งในตลาดยางพาราธรรมชาติของจีนมากกว่าครึ่งของการนำเข้าทั้งหมดในปีที่ผ่านมา โดยสามารถส่งออกไปยังจีนประมาณ ๑.๑ ล้านตัน รองลงมาเป็นการส่งออกยางสังเคราะห์ปริมาณ ๑.๔ ล้านตัน ปริมาณที่ไทยส่งออกยางพาราไปยังจีนนั้นคิดเป็นสัดส่วน ๑ ใน ๓ ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด คาดว่าในปี ๒๕๖๓ จีนจะมีความต้องการใช้ยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นสูงปีละ ๑๑.๕ ล้านตัน เป็นสัดส่วน ๑ ใน ๓ ของผลผลิตยางพาราโลก  ทั้งนี้ จีนไม่มีมาตรการจำกัดปริมาณการนำเข้ายางธรรมชาติ แต่ผู้นำเข้าต้องเป็นบริษัทที่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล โดยที่ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงเขตการคาเสรีอาเซียน-จีน เนื่องจากจีนจัดให้ยางธรรมชาติเป็นสินค้าที่มีความอ่อนไหว จึงมีการเก็บอัตราภาษีนำเข้ายางธรรมชาติ ยางแผ่นรมควันและยางแท่งอยู่ที่ร้อยละ ๒๐ น้ำยางข้นเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ ๗.๕ อีกทั้งการนำเข้ายางทุกประเภทจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีกร้อยละ ๑๗

           สำหรับในมณฑลกวางตุ้ง มีนำเข้ายางธรรมชาติคิดเป็นร้อยละ ๒.๕ จากการนำเข้ายางธรรมชาติทั้งหมดของจีน โดยมีรัฐวิสาหกิจหลักที่ดำเนินธุรกิจด้านยางพารา คือ บริษัท Guangdong Agribusiness Group Corporation ที่มีสาขาในมณฑลต่างๆ และต่างประเทศด้วยรูปแบบการลงทุนที่แตกต่างกันออกไปมากกว่า ๒๖๐ แห่ง ตลอดจนมีสาขาในต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เบนิน รวมไปถึงประเทศไทย