รัฐบาลเดนมาร์กลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก

รัฐบาลเดนมาร์กลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก

วันที่นำเข้าข้อมูล 7 ธ.ค. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 3,026 view

 

 

รัฐบาลเดนมาร์กลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1 หมื่นล้านโครนเดนมาร์ก

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน
http://www.thaiembassy.dk อีเมล์ [email protected]

 

 

 

(ภาพจาก www.google.com)

 

 

                     รัฐบาลเดนมาร์กกำลังดำเนินการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ภายใต้ชื่อว่าA Denmark that stands together โดยการขยายการลงทุนในภาครัฐ มูลค่า 1 หมื่นล้าน โครนเดนมาร์กภายในปี 2558 (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2554 : 1 โครนเดนมาร์กเท่ากับ 5.6 บาท) โดยมุ่งเน้นโครงการปรับปรุงระบบคมนาคม การบูรณะอาคารสาธารณะต่างๆ อาทิ โรงเรียน การสนับสนุนเงินทุนเพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนได้ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม(green technologies) ตลอดจนการเพิ่มอัตราการจ้างงานอีก 135,000 ตำแหน่งภายในปี 2563 ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ขัดแย้งกับแนวคิดของนาย Nils Bernstein ผู้ว่าการธนาคารชาติของเดนมาร์ก ว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีนี้จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อระบบการคลังของรัฐโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะเมื่อคำนึงว่าเดนมาร์กยังคงประสบภาวะขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง ส่วนการกำหนดนโยบายต่างๆ ด้านการจัดเก็บภาษี รัฐบาลเดนมาร์กประกาศจะปฏิรูประบบการจัดเก็บภาษี โดยมีเป้าหมายหลัก คือ การลดอัตราภาษีในภาคแรงงาน โดยการเพิ่มอัตราภาษีสำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ เช่น บุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์และอาหารไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพแทน นอกจากนี้รัฐบาลเดนมาร์กเคยประกาศที่จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีสำหรับผู้มีฐานะร่ำรวย(millionaire tax) ซึ่งเดิมครอบคลุมผู้มีรายได้ตั้งแต่ 1 ล้านโครนเดนมาร์กต่อปีและไปใช้มาตรการเพิ่มภาษีส่วนกลางสำหรับผู้ที่ต้องชำระภาษีในอัตราที่สูงแทน โดยให้มีเริ่มผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม รัฐบาลเดนมาร์กกำหนดเป้าหมายลดปริมาณ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกร้อยละ 40 และจะเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานลมการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นร้อยละ 50 ภายในปี 2563 นอกจากนี้รัฐบาลจะให้การสนับสนุนการผลิตยานพาหนะที่สามารถใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและริเริ่มการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ถนนสำหรับผู้ที่ขับรถเข้าพื้นที่แออัด(Congestion change) ในกลางกรุงโคเปนเฮเกน นโยบายด้านตลาดแรงงาน รัฐบาลเดนมาร์กจะปฏิรูปนโยบายด้านแรงงาน โดยอาจมีการปรับนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี การบังคับใช้นโยบายด้านแรงงานต่างๆตลอดจนการปฏิรูประบบอาชีวศึกษา นอกจากนี้รัฐบาลจะปรับลดวงเงินชดเชยสำหรับผู้เกษียณอายุก่อนกำหนดและอาจปรับลดระยะเวลาในการได้รับเงินชดเชยในกรณีว่างงานจาก 4 ปีเป็น 2 ปี โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่กลางปี 2555 เป็นต้นไป นโยบาย EU รัฐบาลเดนมาร์จะยกเลิก opt-puts ตามที่เดนมาร์กยังคงไม่เข้าร่วมดำเนินการตามกรอบความร่วมมือของ EU ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมและความมั่นคง (โดยจะจัดให้มีการลงประชามติในเรื่องนี้ก่อน) อย่างไรก็ดี ในชั้นนี้ เดนมาร์กยังไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมใน EU Zone ตามกรอบ EU ในลักษณะ full membership นโยบายด้านการเติบโตและการผลิตทางเศรษฐกิจ รัฐบาลเดนมาร์กกำหนดจะจัดตั้งคณะกรรมการพิเศษ 2 ชุด เพื่อ 1) กำกับดูแลเกี่ยวกับการใช้จ่ายสาธารณะที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาว และ 2) ประเมินและกำหนดมาตรการเพื่อส่งเสริมการผลิต โดยเชื่อว่าคณะกรรมการทั้งสองชุดจะช่วยให้รัฐบาลสามารถขยายวงเงินใช้จ่ายสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่กระทบต่อวงเงินงบประมาณในภาพรวม และเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2554 ธนาคารกลางเดนมาร์กได้แถลงเรื่องการออกวงเงินสินเชื่อให้แก่ธนาคารและสถาบันการเงินขนาดกลางและย่อม เพื่อช่วยป้องกันมิให้สถาบันการคลังดังกล่าวต้องประสบภาวะล้มละลายโดยรัฐบาลจะค้ำประกันวงเงินสินเชื่อข้างต้นในช่วงปี 2555-2556 รายละเอียดวงเงินสินเชื่อมีดังนี้ 1) สินเชื่อระยะสั้น (6เดือน) เพื่อสนับสนุนสภาพคล่อง โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ร้อยละ 1.55(เท่ากับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้) 2) ขยายหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันเงินกู้ให้ครอบคลุมถึงหลักทรัพย์ที่มีน่าเชื่อถือได้อื่นๆนอกเหนือจากพันธบัตรรัฐบาลและสัญญาจดจำนอง ซึ่งทำให้วงเงินหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 400 พันล้านโครนเดนมาร์ก (ประมาณ 2,247 พันล้านบาท) ส่งผลให้ธนาคารขนาดกลางและขนาดย่อมมีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นในระยะยาว