เจาะลึกยุทธศาสตร์จีนปี 2555

เจาะลึกยุทธศาสตร์จีนปี 2555

วันที่นำเข้าข้อมูล 5 ม.ค. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 2,434 view

 

 เจาะลึกยุทธศาสตร์จีนปี 2555

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง
www.thaiembbeij.org/ หรืออีเมล์ [email protected] , [email protected]

 

 

 
(ภาพจาก www.google.com)

 

                ช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ หลายท่านคงรอคอยที่จะได้พักกายพักใจหลังจากเหนื่อยล้าจากงานมานาน ก่อนจะเริ่มต้นปีหน้าฟ้าใหม่ที่สดใสในปี 2555 แต่ก่อนจะหยุดยาว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้ส่งตรงข้อมูลความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจจีน เก็บตกจากการประชุม Central Economic Work Conference ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีระดับคณะรัฐมนตรีและคณะกรรมการกรมการเมือง โดยมีนายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า เป็นประธาน จัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา มาฝากท่านผู้อ่านเพื่อร่วมเจาะลึกยุทธศาสตร์จีนในปีหน้าไปพร้อมๆกัน

               สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ดังกล่าว คือ การประคองการส่งออก เพื่อป้องกันผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหภาพยุโรป การส่งเสริมการบริโภคในประเทศ โดยขยายการลงทุนไปภาคกลางและตะวันตกของประเทศ รวมทั้งใช้นโยบายการคลังแบบขยายตัวเป็นเครื่องมือ โดยมีแนวทางสำคัญ ได้แก่ การปฏิรูปโครงสร้างการเก็บภาษีเงินได้ ซึ่งครอบคลุมกว้างขวางถึงภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอสังหาริมทรัพย์ เก็บภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้น เก็บภาษีทรัพยากรธรรมชาติ อาทิ ถ่านหินมากขึ้น

               ไม่เพียงเท่านั้น ยุทธศาสตร์ดังกล่าว ยังรวมถึงการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้นอย่างช้าและรักษาเสถียรภาพของค่าเงินหยวน อย่างไรก็ตาม จีนก็ยังคงเฝ้าระวังอัตราเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด (เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 PBCC ได้เริ่มลดอัตราเงินสดสำรอง(RRR) แล้วร้อยละ 0.5 ซึ่งเป็นการลด RRR เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี เป็นสัญญาณแรกเริ่มของการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น พร้อมทั้ง คงมาตรการชะลอการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ อาทิ มาตรการทางภาษีสำหรับบ้านแห่งที่ 2 และ 3 เป็นต้น

               ยุทธศาสตร์ดังกล่าว ย่อมได้รับความสนใจและการวิเคราะห์จากสื่อหลายสถาบัน เรื่องที่อยู่ในความสนใจคงหนีไม่พ้น เรื่องค่าเงินหยวน ซึ่งนักวิเคราะห์จาก standard chartered Bank (China) คาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนจะชะลอการปล่อยให้เงินเงินหยวนแข็งค่าขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 เพื่อช่วยประคองการส่งออก อย่างไรก็ดี สำหรับตลอดปี 2555 เงินหยวนน่าจะแข็งค่าขึ้นร้อยละ 5 -10 นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จาก Barclays Bank ยังคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะเดินหน้าใช้มาตรการส่งเสริมให้เป็นเงินตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศที่กว้างขวางขึ้นดังเช่นในปีก่อน และนักวิเคราะห์จากทุกสำนักคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตในอัตราที่ต่ำลงกว่าปีก่อนๆ ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์ต่างๆ มีความหว่งกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2555 เพราะดัชนีเศรษฐกิจของอนเดียแสดงการชะลอตัวการเติบโต และเงินรูปีอ่อนค่าลงอย่างฉับพลันในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาคงติดตามกันต่อปีหน้า ถึงรายละเอียดและการดำเนินการต่างๆของจีน ตามยุทธศาตร์ข้างต้น

สำหรับท่านใดที่ไม่อยากตกกระแสเศรษฐกิจจีน ลองคลิกกันได้ที่ www.thaibizchina.com