ญี่ปุ่นเข้มความปลอดภัยอาหาร หวังกระตุ้นความเชื่อมั่น

ญี่ปุ่นเข้มความปลอดภัยอาหาร หวังกระตุ้นความเชื่อมั่น

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 มิ.ย. 2554

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 พ.ย. 2565

| 2,356 view
     ญี่ปุ่นเข้มความปลอดภัยอาหาร หวังกระตุ้นความเชื่อมั่น

จาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
(
http://www.thaiceotokyo.jp/thai/ หรืออีเมล์ [email protected])


 

ภาพจาก www.google.com

     ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กหรือใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เรามักพบร้านและซุ้มขายอาหารสัญชาติญี่ปุ่นหลากหลายยี่ห้อให้ได้เลือกซื้อและเลือกชิมกัน นั่นก็เพราะอาหารญี่ปุ่นได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเราด้วยรสชาติแสนอร่อยและรูปลักษณ์การจัดแต่งที่สวยงาม ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย อย่างไรก็ดี หลังจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถ่าโถมต่อด้วยข่าวการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีในอาหารของญี่ปุ่น จึงส่งผลให้ผู้บริโภคเกิดความวิตกกังวลต่อความปลอดภัยของอาหารญี่ปุ่นไปตามๆ กัน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว จึงขอส่งตรงข้อมูล เกี่ยวกับการดำเนินการของญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยอาหารของญี่ปุ่นและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บรรดาผู้ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นได้คลายควางกังวลไปพร้อมๆ กัน

     เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 สถานทูตไทย ณ กรุงโตเกียวได้เข้าร่วมฟังบรรยายในหัวข้อเรื่อง Japan Food Safety Concern : Fact and Fiction โดยมีผู้บรรยายจากหน่วยงานภาคเอกชนของญี่ปุ่นร่วมให้ข้อมูลด้วย ขอเริ่มต้นกันที่นายธาตรี เหลืองตรีโรจน์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเป็นตัวแทนเข้าฟัง  การบรรยายครั้งนี้มีบุคคลสำคัญของญี่ปุ่นเป็นผู้บรรยาย เช่น  นาย Hideaki KARAKI (Vice President in charge of international activities, Science Council of Japan) ได้บรรยายถึงมาตรการของรัฐบาลญี่ปุ่นว่า เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2554 กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้กำหนดให้สินค้าเกษตรที่มีปริมาณระดับกัมมันตรังสีน้อยกว่า 5 มิลลิซีเวิร์ตต่อปีอยู่ในระดับที่ปลอดภัยสามารถบริโภคได้ ต่อมา หลังจากการตรวจพบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสินค้าการเกษตรเมื่อวันที่ 19 มีนาคม รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีคำสั่งระงับการจำหน่ายสินค้าบางประเภทที่ผลิตจาก 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดฟุคุชิมะ อิบาราคิ กุมมะ โทจิกิ และชิบะ ซึ่งได้สร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นและเกษตรกรใน 5 จังหวัด เนื่องจากสินค้าการเกษตรที่มีการปนเปื้อนถูกตรวจพบในบางพื้นที่เท่านั้น หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2554 ได้มีการยกเลิกคำสั่งห้ามจำหน่ายสินค้าเกษตรจาก 5 จังหวัดเหลือแค่บางพื้นที่ในเขตใกล้เคียงเท่านั้น และในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 พื้นที่ซึ่งยังอยู่ภายใต้คำสั่งห้ามจำหน่ายสินค้าเหลือเพียงบางบริเวณในเขตจังหวัดฟุคุชิมะและทางตอนเหนือของจังหวัดอิบาราคิเท่านั้น

     ขณะที่ นาย Noriyuki SHIKATA (Deputy Cabinet Secretary for Public Relations and Director of Global Communication, Prime Ministers Office) ซึ่งกล่าวว่า อาหารที่ขายตามท้องตลาดในญี่ปุ่นนั้นได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วและเชื่อได้ว่าปลอดภัย เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นเองได้กำหนดมาตรการความปลอดภัยและตรวจสอบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารและผู้ปรุงอาหารญี่ปุ่นเองต่างระมัดระวังในการคัดสรรวัตถุดิบเป็นพิเศษอีกด้วย 

     ขณะที่ นาย Kohei TAKASHIMA ( CEO of Oisix Co.Ltd) เจ้าของบริษัทขายปลีกวัตุดิบและอาหารบนอินเตอร์เน็ตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นได้แจ้งว่า ทางบริษัทฯ ได้เพิ่มกระบวนการตรวจสอบการปนเปื้อนกัมมันตรังสีหลายขั้นตอนก่อนส่งสินค้า รวมทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ความปลอดภัยของอาหารญี่ปุ่นโดยการร่วมมือกับบริษัทชั้นนำ เช่น บริษัทกูเกิลญี่ปุ่น โดยการนำวัตถุดิบจากจังหวัดฟุคุชิมะมาปรุงอาหารในโรงอาหารของบริษัทและประชาสัมพันธ์เผยแพร่ตามสื่อต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าวัตถุดิบปลอดภัย สามารถรับประทานได้ นอกจากนี้ นาย SHIKATA ได้กล่าวเสริมว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้รณรงค์ให้โรงอาหารของหน่วยงานราชการใช้วัตถุดิบจากจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยจากการทำแบบสอบถามของบริษัทพบว่าร้อยละ 80 ของผู้บริโภคยินดีที่จะซื้อวัตถุดิบจากจังหวัดฟุคุชิมะและจังหวัดอิบาราคิ หากได้รับการตรวจสอบว่าสินค้าปราศจากการปนเปื้อน ทั้งนี้ นาย SHIKATA ยังแนะนำให้รัฐบาลเพิ่มมาตรการตรวจสอบสารปนเปื้อนตามจุดกระจายสินค้าและท่าเรือรวมถึง animal quarantine และ plant quarantine ทุกจุด นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งกลุ่มองค์กรอิสระให้เข้ามาตรวจสอบ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการบริหารข้อมูล และแต่งตั้งโฆษกเพื่อประชาสัมพันธ์ข่าวสารด้านความปลอดภัยอาหารอีกด้วย