องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ( WIPO )

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ( WIPO )

วันที่นำเข้าข้อมูล 25 เม.ย. 2555

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 52,469 view

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก

(World Intellectual Property Organization – WIPO)

 

ข่าวประชาสัมพันธ์

 

ข้อมูลองค์กร

องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO)
     เป็นทบวงการชำนัญพิเศษของสหประชาชาติ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบทรัพย์สินทางปัญญาระหว่าง ประเทศที่มีความสมดุล ระหว่างการตอบแทนผู้ทรงสิทธิ์ซึ่งนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และปกป้องผลประโยชน์ของสาธารณะ โดยมีผลเป็นรูปธรรมคือความตกลงระหว่างประเทศที่สมาชิกเลือกเข้าเป็นภาคีโดย ความสมัครใจ (ปัจจุบัน WIPO ดูแล 24 สนธิสัญญา/อนุสัญญา/ความตกลง)

วัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง 
     WIPO ก่อตั้งขึ้นในปี 2517 โดยอนุสัญญา WIPO ปี ค.ศ. 1967 (พ.ศ. 2510) โดยได้รับอาณัติมอบหมายจากประเทศสมาชิกให้ส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทาง ปัญญาโดยอาศัยความร่วมมือจากประเทศสมาชิกและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ

ที่ตั้งสำนักงานใหญ่
     สำนักงานใหญ่ WIPO ตั้งอยู่ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ประเทศสมาชิก
     ปัจจุบัน WIPO มีสมาชิกทั้งหมด 184 ประเทศ 

งบประมาณ 
     WIPO ได้รับงบประมาณทั้งสิ้น 630 ล้านฟรังค์สวิสในปี 2551-2552

 

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับ WIPO

 

การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่างๆ ของ WIPO 


     ไทยได้เข้าเป็นภาคี อนุสัญญากรุงเบิร์น (Berne Convention on Literary and Artistic Work) ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุสัญญาที่อยู่ในความดูแลของ WIPO ตั้งแต่ปี 2474 และเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา WIPO ซึ่งส่งผลให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก WIPO ในปี 2532 จากนั้นไทยได้เข้าเป็นภาคีอนุสัญญากรุงปารีส (Paris Convention for the Protection of Industrial Property) ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 สิงหาคม 2551 และล่าสุดได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาว่าด้วยความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (Patent Cooperation Treaty - PCT) เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 และมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2552

บทบาทของไทยใน WIPO


     ไทยถือว่าเป็นประเทศที่มีบทบาทพอสมควรในเวที WIPO โดยไทยได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่ WIPO เป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญต่อการประชุมของคณะกรรมการต่างๆ โดยส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่


      • Standing Committee on the Law of Patents (SCP) ซึ่งเกี่ยวกับสิทธิบัตร


      • Standing Committee on the Law of Trademarks, Industrial Designs and Geographical Indications (SCT) ซึ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า การออกแบบทางอุตสาหกรรม และสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์


      • Intergovernmental Committee on Intellectual Property and Genetic Resources, Traditional Knowledge and Folklore (IGC-GRTKF) ซึ่งเกี่ยวทรัพยากรพันธุกรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการแสดงออกทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม


     • Committee on Development and Intellectual Property (CDIP) ซึ่งเกี่ยวกับการอนุวัติวาระเพื่อการพัฒนา

 

ประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ


     ไทยให้ความสำคัญต่อการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญามาตั้งแต่อดีต โดยมีพระราชบัญญัติคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ จำนวนมาก แม้จะไม่ได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญา/อนุสัญญา/ความตกลงทั้งหมดของ WIPO อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ไทยให้ความสนใจเป็นพิเศษในปัจจุบัน ได้แก่


     • ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่ง ปัจจุบันยังไม่มีการคุ้มครองโดยตรงทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ปัจจุบัน ไทยมีเพียง พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2542 และ พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืช พ.ศ. 2542 โดยปัจจุบันประเด็นดังกล่าวยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในเวที IGC-GRTKF โดยไทยได้สนับสนุนให้มีกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเภทต่างๆ


     • วาระเพื่อการพัฒนา ซึ่งเป็น ความพยายามในการผลักดันของประเทศพัฒนาให้มีการส่งเสริมการพัฒนาโดยอาศัย ทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือ ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างแผนการทำงานโดยคณะกรรมการ CDIP ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2550 โดยไทยได้มีบทบาทในการอภิปรายแผนการทำงานต่างๆ อย่างกว้างขวางในคณะกรรมการดังกล่าว


     • การสร้างเสริมศักยภาพ (Capacity Building) ภายใต้วาระเพื่อการพัฒนา หนึ่งในหน้าที่ของ WIPO คือการสร้างเสริมศักยภาพของประเทศกำลังพัฒนาให้มีขีดความสามารถด้าน ทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ ซึ่งไทยได้ร่วมมือกับ WIPO ในการจัดสัมมนา/หลักสูตรอมรมต่างๆ ได้แก่ หลักสูตรอบรมทรัพย์สินทางปัญญาพื้นฐานทางอินเตอร์เน็ต (DL-101 ฉบับภาษาไทย) ทั้งนี้ ไทยพยายามส่งเสริมให้มีความร่วมมือระหว่างไทยกับ WIPO ในเรื่องดังกล่าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

 

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย


     กระทรวงการต่างประเทศ เป็นหน่วยประสานงานหลักระหว่าง WIPO กับไทย โดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และคณะทูตถาวรประจำสำนักงานสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีบทบาทสำคัญในหลายคณะกรรมการของ WIPO ได้แก่ IGC-GRTKF และ CDIP โดยมีกรมทรัพย์สินทางปัญญา (พณ.) เป็นหน่วยงานหลักของไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญา นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ของไทยที่เกี่ยวข้องกับงานของ WIPO ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค)

บริการออนไลน์ของ WIPO (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)

     WIPO's PATENTSCOPE สามารถสืบค้นฐานข้อมูลสิทธิบัตรของประเทศต่างๆ และการขอจดสิทธิบัตรภายใต้สนธิสัญญา PCT

     WIPO GOLD สามารถสืบค้นฐานข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญา เช่น เทคโนโลยี ตราสินค้า สถิติ กฎหมาย และสนธิสัญญาที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา

     ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ WIPO และทรัพย์สินทางปัญญา

กองนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
       กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
       23 กุมภาพันธ์ 2555

* * * * * * * * * * * * * * *